![]() |
![]() |
|
![]() |
|
Thread Tools | Search this Thread | Display Modes |
![]() |
#1 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
หลังจากเฝ้าพะว้าพะวงเรื่องระบบไฟฟ้าในรถยนต์มาสักพั กนึง ในที่สุดก็เลยตัดสินใจติดเครื่องมือวัดแรงดันไฟฟ้า หรือ volt meter เอาไว้เป็นตัวช่วยครับ
![]() ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกที่จะหาโวลต์มิเ ตอร์ซักอันมาใส่ในรถ เพราะมันก็มีขายตามท้องตลาดมากมาย แบบเสียบกับที่จุดบุหรี่ ก็มีให้ใช้ สะดวกสบาย แต่พอดี ผมมันคนเรื่องมากน่ะครับ ![]() จึงเป็นที่มาของ DIY ติดตั้งโวลต์มิเตอร์ฉบับ Built-in ครับ ลองทำเองเล่นๆดู ถือคติ พังไม่เป็นไร อะไหล่มีขายทุกชิ้น 555 ![]() มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ขั้นแรก หาซื้อโวลต์มิเตอร์ แบบจอเปลือย ขนาด 0.28 นิ้ว สำหรับกรณีจะใส่ที่ช่องกลางของจอไมล์(ช่องวัดอุณหภูม ิภายนอก) อ้อ ลืมบอกไป อันนี้ไว้ใช้กับรถที่ไม่มีจอวัดอุณหภูมิภายนอกนะครับ หรือ ถ้าหากรถของท่านมีตัววัดอุณหภูมิภายนอก แต่เสียแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน (ดียิ่งสะดวกเลยครับ) หรือ ขนาด 0.36 นิ้ว ถ้าหากจะใส่ช่องว่างข้างๆขวาสุดของจอไมล์ (ถัดจากไฟ SRS) รูปร่างหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ (ในภาพเป็นขนาด 0.28") ![]() ขั้นที่ 2 หลังจากได้โวลต์มิเตอร์มาแล้ว ท่านก็จัดการ ถอดเรือนไมล์ออกมาจากคอนโซลได้เลย วิธีการถอดเรือนไมล์ออกมาของรถ w124 คือ ใช้มือเปล่าๆ หรือของมีคมซึ่งควรหุ้มผ้าหรืออะไรนุ่มๆไว้หน่อย ค่อยๆ ดึง หรืองัด หน้าจอเรือนไมล์ออกมาจากคอนโซลได้ตรงๆเลยครับ สำหรับรถใครที่ยังซิงๆอยู่ไม่เคยต้องมือชายใดเหมือนร ถผม ![]() เพราะด้านหลังมันมีเหล็กดัดโค้งๆอยู่ด้านใน 4 มุม คอยสร้างความฝืดให้กับเรือนไมล์กับคอนโซลนั่นเอง ภาพประกอบขั้นตอนนี้ไม่มีนะครับ แต่ท่านสามารถค้นหาดูได้จากกระทู็เก่าๆใน BON นี้ มีหลายๆท่านเคยทำให้ดูแล้ว หลังจากดึงออกมาได้แล้ว ก็เอามือล้วงไปด้านหลัง ดึงหลอดไฟ+ปลั๊กไฟต่างๆออก และหมุน น็อตทองเหลือง ของสายไมล์ออก แล้วก็ยกเรือนไมล์ออกมาได้เลยครับ หมายเหตุ : ปลั๊กตัวกลมๆอันใหญ่สุดฝั่งซ้าย ที่มีหลายๆขา จะถอดออกยากมากๆแต่ไม่ต้องกังวล ค่อยๆโยก เบาๆ เดี๋ยวก็ค่อยๆกระดึ้บออกมาได้ครับ ขั้นที่ 3 เมื่อยกเรือนไมล์ออกมาแล้ว ยังไม่สามารถติดตั้งโวลต์มิเตอร์ลงไปได้เลยนะครับ เนื่องจากตรงตำแหน่งจอตรงกลางนั้น จะมีแถบพลาสติกปิดเอาไว้นั่นเอง จึงต้องนำออกไปก่อน (ทีแรกผมไม่ทราบ กว่าจะเจอได้ เสียเวลาตั้งนาน ![]() วิธีเอาแผ่นพลาสติกออกคือ พลาสติกนี้จะมี 2 แผ่น ซ้าย กับ ขวา เป็นตัวสร้างรูปไฟเตือนต่างๆนั่นเอง สำหรับของช่องกลางให้ ใช้แหนบ ดึงแผ่นทาง ซ้าย นะครับ ตามนี้ ![]() เมื่อเอาออกมาแล้วจะเป็นแบบนี้ ![]() จัดการ ตัด แถบสีน้ำเงินซึ่งเป็นตัวปิดของช่องกลางออกได้เลยครับ จะมีรอยบากเล็กๆเป็นสัญลักษณ์บอกระยะตัดอยู่ครับ ![]() Last edited by Teresa; 29-05-2015 at 05:18:12 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#2 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
ขั้นตอนที่ 4
จะติดโวลต์มิเตอร์ลงไปแล้วครับ วิธีการคือ (สำหรับ 0.28") ให้ใช้ เทปกาว 2 หน้าแบบโฟม ดังมันออกมา 2 แผ่นด้วยขนาดความยาวเท่ากับความกว้างของมิเตอร์ เหตุที่ต้องกว้างเท่ากับความกว้างของมิเตอร์เพราะมัน จะเอียงครับ ถ้าหากไม่ติดให้ทั่ว แล้วซ้อนกันที่ ด้านล่าง ของจอมิเตอร์ครับ ไม่ติดข้างบนนะครับ เพราะตัวเลขมันจะไม่อยู่ตรงกลาง กลายเป็นเผยอกับขอบของหน้าปัทม์ครับ แล้วค่อยๆใส่เข้าไปในจอเรือนไมล์ ทริค ของขั้นตอนนี้คือ ไม่ต้องดึงกระดาษปิดเทปกาว ออกนะครับ เพราะมันจะติดล็อกตอนดันเข้าไปยังไม่สุดนั่นเอง ![]() ขั้นที่ 5 ถึงเวลาต่อไฟให้กับมิเตอร์แล้วครับ ![]() ให้ใช้สายไฟที่มี 2 เส้นใน 1 ปลั๊ก ซึ่งจะอยู่ฝั่งขวาของจอไมล์นั่นเอง หรือดูง่ายๆว่า เส้นที่ต่อเข้ากับ วัดรอบ นั่นแหละ(เบ้าที่เป้นอลูมิเนียม) แล้วมีสายไฟ 2 เส้น ส่วนเส้นที่เป็นสายเดี่ยว จะเป็นของนาฬิกาซึ่งเราไม่ใช้นะครับเพราะมันมีไฟตลอด เวลา เอาเส้นล่างหรือเส้นที่เป็น สีดำคาดม่วง มาปลอกสายไฟแล้วเอา สายไฟเส้น + (ในที่นี้คือสีแดง)ของมิเตอร์มาจั๊มจากตรงนี้ได้เลยค รับ ![]() หมายเหตุ : ทางที่ดีควรจะซื้อตัวปลั๊กแบบงับเข้าไปที่สายไฟเลยจะ สะดวกกว่าครับ แต่พอดีผมขี้เกียจขับออกไปซื้อแล้วเลยขอต่อแบบลูกทุ่ งเอาละกัน ขั้นที่ 6 (ขั้นสุดท้าย ![]() ต่อสายกราวด์ให้กับมิเตอร์ครับ ให้มองหา น็อตตัวที่อยู่บนหลังวัดรอบครับ ซึ่งเคสของมันเป็นอลูมิเนียม จะมี 2 ตัวเลือกตัวใดตัวนึง ขันขึ้นมาแล้วเอาสายไฟเส้น - ของมิเตอร์(ในที่นี้คือสีดำ) วางคล้องลงไปแล้วขันน็อตกลับเข้าไปได้เลยครับ ขออภัยรูปไม่ได้ถ่ายเอาไว้ แต่เป็นตามนี้ครับ น้อตตัววงกลมสีเหลือง ![]() จากนั้นประกอบหลอดไฟ/ปลั๊กต่างๆให้เสร็จ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วครับ ![]() Last edited by Teresa; 29-05-2015 at 05:21:00 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#3 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
สำหรับทดสอบ ทำได้โดย ยังไม่ต้องใส่หน้าปัทม์กลับเข้าไปจนสุดนะครับ ดันเข้าไปแค่หลวมๆพอเผื่อมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ง่ ายๆ ไม่ต้องเจ็บมือดึงอีก
![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#4 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
เพิ่มเติม จริงๆแล้ว DIY นี้ยังไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไหร่นะครับ เพราะจริงๆควรมีวัสดุอะไรบางอย่างเช่น ไฟเบอร์กลาส หรือพลาสติกไม่ทึบมาก อะครีลิค อะไรทำนองนี้(ซึ่งไม่ราบว่าคืออะไรกันแน่
![]() ถึงบอกว่ารถที่มีจอวัดอุณหภูมิภายนอกจะเนียนกว่าไงคร ับ เพราะแค่เลาะเอาวงจรเดิมออก เก็บเฉพาะกรอบและจอของมันมาใช้ก็จะได้เนียนดีครับ เดี๋ยวผมอาจจะไปลองหาอะไรหรือกรอบเก่ามาใส่ดูเพื่อให ้เนียนกว่านี้อีกครับ ![]() ![]() Last edited by Teresa; 26-04-2015 at 12:40:09 AM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#5 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
ขอโทษทีครับ ลืมโชว์ผลงาน
![]() ปล.ขออภัยในฝีมือการถ่ายรูปของผมนะครับ ![]() อันนี้ตอนกลางวัน ตอนกลางวันจะดูยากกว่านิดนึงนะครับเพราะยังไม่ได้ใส่ แผ่นอะครีลิค(หรืออะไรนั่น)ลงไป ![]() อันนี้ตอนกลางคืน ![]() ![]() ของจริงมันเป็นสีเหลืองนะครับ(เข้ากับสีหน้าปัทม์เบน ซ์) แต่ทำไมถ่ายรูปออกมากลายเป็นสีเขียวก็ไม่รู้ ![]() ![]() Last edited by Teresa; 29-05-2015 at 05:28:12 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#6 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
มาแล้วครับ ในที่สุด ก็ทนกับความคันไม่ไหว
![]() คุณสมบัติของวัสดุที่จะนำมาใช้ จากการสังเกตุพวกหน้าปัทม์เครื่องเสียงต่างๆทั้งบ้าน และรถ พบว่า ควรเป็นวัสดุที่มีสี เข้ม ครับจึงจะดี ว่าแล้วก็เลยมองหารอบๆบ้าน เจอวัสดุ 2 ชิ้นเข้าที่ดูลักษณะแล้วน่าจะพอใช้ได้ ได้แก่ ตามรูปเลยครับ 1. แผ่นพลาสติกใสใส่นามบัตรที่เน่าแล้ว ![]() 2. แผ่นฟิล์มเอ็กซเรย์ที่ไม่ใช้แล้ว (สีฟ้า) ![]() เมื่อมาถึง โชคดีที่ยังเก็บแผ่นพลากติกเดิมที่ตัดออกไว้อยู่ ![]() ![]() และโชคดีอีกครั้ง ที่ยังไม่ได้ดันหน้าปัทม์เข้าไปจนสุด ![]() จัดการติดสก็อตเทป เล็กๆ แผ่นวัสดุที่ตัดกับแผ่นไฟเตือน แล้วบรรจงสอดกลับเข้าไปที่เดิม ทดลองชักเข้าชักออก เลือกระหว่าง 2 วัสดุว่าอย่างไหนเข้าตากว่ากัน สรุป เลือกแผ่นฟิล์มเอ็กซเรย์(สีฟ้า)ครับ มันมี 2 ด้านคือ เงา กับ ด้าน เลือกด้านด้านครับ เนื่องจากด้านเงามันจะสะท้อนแสง มองแล้วบางทีไม่สะดวก จริงๆมีข้อสังเกตุอย่างนึง แผ่นแถบไฟเตือนของเบนซ์เองก็เป็นแบบด้านอยู่เหมือนกั นนะครับ (งั้นจริงๆเราก็ไม่ต้องคิดก็ได้ เลือกตามวิศวกรเบนซ์เลย ![]() Last edited by Teresa; 29-05-2015 at 05:34:29 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#7 |
Join Date: Oct 2008
Location: กรุงเทพราตรี
Posts: 2,970
Thanks: 2,033
Thanked 1,886 Times in 741 Posts
|
![]()
เสร็จแล้วออกมาเป็นอย่างนี้ครับ
![]() ![]() ![]() ![]() เปรียบเทียบกับของเก่าหน่อย ![]() ![]() ![]() พอใจมากถึงมากที่สุด เรียบ สวย หรู มีประโยชน์ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับรถได้ ตรงตามคอนเซป สรุปจบอย่าง Happy Ending ครับ ![]() เป็นอันปิดโปรเจคได้แล้ว ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ Last edited by Teresa; 29-05-2015 at 05:41:52 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
Thread Tools | Search this Thread |
Display Modes | |
|
|