![]() |
![]() |
![]() |
#1 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
ช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมชีวิต..เอ้ย มะช่าย :n15 ขณะที่เขียนเรื่องนี้อยู่ฝนก็เทลงมาค่อนข้างหนัก ฝรั่งบอก It's raining cats and dogs ! (ก็ไม่รู้ว่าไปเกี่ยวกับแมวและหมาได้ไง) แหงนมองดูฟ้าแล้วมันฉ่ำมืดไปด้วยเมฆฝนทั่วไปหมด ท่าทางมันจะเอาจริง คิดถึงผู้คนที่เดินทางด้วยรถยนต์อยู่บนท้องถนน ก็คงจะต้องเผชิญกับอุปสรรคในการขับรถท่ามกลางสายฝนอย ู่พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการมองเห็นผ่านกระจกรถออกไป ถ้ามองไม่ถนัดชัดเจนว่ามันเป็นอะไรกันแน่ ข้อมูลในการตัดสินใจ เช่น การกะระยะต่างๆก็อาจผิดพลาด เรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
![]() อันว่าเจ้าอุปกรณ์ปัดน้ำฝนเนี่ยได้มีการออกแบบกันมาม ากมายหลายแบบด้วยกัน โดยยึดวัตถุประสงค์ว่า กวาดน้ำออกจากกระจกหน้าให้เกลี้ยงอย่างรวดเร็วโดยให้ มีพื้นที่การมองเห็นให้เพียงพอต่อการขับรถด้วยความเร ็วที่พอเหมาะกับสภาพสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น :shock: ของใครที่นับได้ใกล้ตัวเลขที่ว่าก็เตรียมเสียเงินได้ :o ส่วนจะมีรุ่นใหนเริ่มใช้เจ้าแขนเดียวกันบ้าง และมาสิ้นสุดที่รุ่นใหน คงต้องให้คุณ Kris ผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้อมูลรุ่นรถต่างๆช่วยสาธยายหน่อย ละครับ ![]() ลองคิดง่ายๆ ถ้ากระจกหน้ามีความกว้างเท่ากัน ถ้าเป็นเจ้าแขนเดี่ยวเนี่ยมันต้องวิ่งกวาดน้ำจากซ้าย มาขวาสุดกระจก เพื่อเคลียน้ำออกให้หมดจากกระจกด้วยความเร็วที่เกือบ จะเป็นสองเท่าของเจ้าแขนคู่ทีเดียว(ไม่มีใครช่วยเยย :P ) ดังนั้นการที่จะพัฒนาให้มันเจ๋งครอบคลุมได้ทุกด้านคง ต้องใช้เงินอีกเยอะ พอมารุ่นหลังๆเจ้าแขนคู่จึงกลับมาอีก :shock: ดังนั้นเราจึงควรดูแลเอาอกเอาใจมันเป็นพิเศษหน่อย เช่นถ้าเห็นมันเริ่มหงอยเคลื่อนใหวช้าลงแสดงว่ามันหิ วจาระบีหล่อลื่นแล้ว ท่านว่าให้หาจาระบีลิเธียมซึ่งกันน้ำได้มาให้มันกินห น่อย โดยแกะฝาครอบออกตามวิธีในรูปข้างล่าง โดยเฉลี่ยปีละครั้งก็ยังดี ซึ่งอาจทำให้เฟืองพลาสติคทนขึ้นด้วย ![]() ยังมีตัวช่วยอีกตัวหนึ่งคือน้ำยาทากระจกจำพวก Rain Dance หรือ Rain X อะไรเนี่ยแหละ เมื่อทากระจกตามคำแนะนำข้างขวดแล้วเมื่อเจอฝนจะช่วยล ดการทำงานของเจ้าแขนเดียวไปได้เยอะ น้ำฝนจะใหลลื่นลงไปหมดเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอน คือยิ่งถ้ารถวิ่งมีลมเป่ากระจกหน้าเมื่อไรก็เป็นอันว ่าไม่ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนเลย :oops: น้ำก็ไม่เกาะรอบคันเหมียนกัลล์..อิ..อิ :-D |
![]() |
![]() |
![]() |
#2 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
ต่อครับ รูปนี้รู้สึกว่าจะเป็นตัวเดียวอันเดียวของ C Class อิ..อิ [img]{SMILIES_PATH}/icon_smile.gif[/img]
|
![]() |
![]() |
![]() |
#3 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
ต่อครับ เจ้าเฟืองพลาสติคครึ่งวงเนี่ยถ้ามันรูดขึ้นมาละก็ ใบปัดอาจติดค้างที่ขอบกระจก ต้องรีบปิดกุญแจสวิทซ์ และลงไปดึงมันกลับมาเข้าที่ ไม่งั้นมอเตอร์จะร้อนจัดจนควันขึ้นและใหม้ไปในที่สุด ..อุ..อุ
![]() Last edited by Manit; 01-06-2015 at 02:43:02 PM. |
![]() |
![]() |
![]() |
#5 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
อ้อ...ถ้าไอ้นั่นไม่หด..เอ้ย..ใบปัดไม่หดเนี่ย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#7 |
Join Date: Feb 2006
Location: Bangkae
Posts: 2,237
Thanks: 1,064
Thanked 633 Times in 280 Posts
|
![]()
พี่มานิตย์
แล้ว 190E มานจะถอดมาดู เฟือง ได้ยังไง :cry: ถอดได้แต่ไอ้ ฝาครอบด้าม เท่าน้าน :? |
![]() |
![]() |
![]() |
#8 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
มีรูปพร้อมคำอธิบายวิธีทำตามเวบนี้ครับ
![]() http://www.mercedesshop.com/shopforum/s ... p?p=410746 รูปที่1 ก่อนถอดออกให้ปรับก้านปัดฯให้ตั้งขึ้น 90 องศา เพื่อให้ก้านหดสั้นที่สุด จากนั้น ถอดถอดนัตยึดแกนหมุนออก (ตามรูปนั้นได้ถอดออกแล้ว) ก่อนรื้อชิ้นส่วนออกมาต้องทำการมารค์ตำแหน่งต่างๆไว้ ก่อนเพื่อเวลาประกอบจะได้เข้าที่เดิมได้ ไม่งั้นใบปัดฯอาจกวาดเบี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่งได้ จากนั้นถอดพวกลิ้งค์ต่างๆออกจากแกนหมุน อาจต้องใช้ใขควงงัดบ้าง จขกท. ใช้เครื่องดูดพุลเลย์ 3 ขา มาดูดออก เห็นบอกไม่แน่นเท่าไร |
![]() |
![]() |
![]() |
#9 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
รูปที่ 2 จากนั้นถอดแหวนล้อคที่หัวเพลาชุดเฟืองก้านปัดฯออก ค่อยๆตอกหัวเพลาเพื่อถอดแยกออกจากกัน
![]() ถอดสกรูตัวเล็ก 5 ตัวเพื่อเปิดฝาครอบด้านบนออก อย่าไปยุ่งกับสกรูตัวใหญ่ 4 ตัว เพราะมันเป็นตัวยึดรางเลื่อนของชุดก้านปัดฯ ![]() รูปที่ 4 เมื่อเปิดฝาครอบด้านบนออกแล้วจะเห็นตัวรูดเสา..เอ้ย. .รูดรางบังคับให้ก้านปัดฯวิ่งขึ้นลง ยืดหดได้ ก็ให้ทาจาระบีฯเช่นเดียวกัน ทั้ง 3 จุดคือรางซ้ายขวา และจุดที่ก้านเลื่อนออกมาข้างนอกโครงฝาครอบซึ่งน่าจะ เป็นจุดที่สึกหรอมากเนื่องจากอาจต้องเจอทั้งฝุ่นและน ้ำ [img]{SMILIES_PATH}/icon_cool.gif[/img] |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#10 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
เนื่องจากมีผู้หลงเชื่อทำตาม..อิ..อิ
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#11 |
Join Date: Apr 2008
Posts: 1,932
Thanks: 7
Thanked 70 Times in 47 Posts
|
![]()
ของe220w124 เฟืองเป็นพลาสติก หรือ เป็นยางครับ ราคาประมาณเท่าไร และที่ฝั่งธนมีร้านไหนที่ซ่อมได้บ้างครับ แบบว่า ทำเองมะเป็นอ้ะ
|
![]() |
![]() |
![]() |
#12 |
Join Date: Feb 2006
Location: Bangkae
Posts: 2,237
Thanks: 1,064
Thanked 633 Times in 280 Posts
|
![]()
[quote="Manit"]เนื่องจากมีผู้หลงเชื่อทำตาม..อิ..อิ
![]() เลย ไปพึ่งบริการ อู่ชิ้ว ผลพลอยได้ที่ เข็มขัดสั้น (คาดไม่ถึง..อิอิ) ครือ เฟืองครึ่งวงกลม มานร้าว ด้วย :a11 |
![]() |
![]() |
![]() |
#13 |
Join Date: Jan 2006
Posts: 1,474
Thanks: 4,953
Thanked 1,389 Times in 412 Posts
|
![]()
ขอบพระคุณสำหรับความรู้ดี ๆ อีกเช่นเคยครับ
|
![]() |
![]() |
![]() |
#14 |
Join Date: Jan 2008
Posts: 46
Thanks: 0
Thanked 5 Times in 1 Post
|
![]()
ขอบคุณครับพี่ [img]{SMILIES_PATH}/icon_smile.gif[/img]
|
![]() |
![]() |
![]() |
#15 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
หลังจากพูดถึงเรื่องที่ปัดน้ำฝนมาครบปี เอา DIY จากเวบฝรั่งมาลงให้ดูกัน พอมาปีนี้เลยถึงตาผมมั่ง...อยู่ๆใบปัดน้ำฝนของเจ้า 300E มันก็ไม่ยืดไม่หดซะงั้น เอาละซีหน้าฝนซะด้วย งานเข้าอีกแย้ว ..เฮ้อ
โทรเช็คราคาอะไหล่เฟืองเดือนเสี้ยว ราคา 300 อะพอได้แฮะ ว่าแล้วก็ลงมือซ่อมซะก่อนที่จะต้องลุยฝนโดยไม่มีที่ป ัดน้ำฝน ลองถอดรื้อออกมาดูเล่นๆ ก็ไม่ยากเท่าใหร่ ไล่แกะไปทีละชิ้นเดียวก็ออกมาแย้ว มีจุดที่พิเศษหน่อยคือการถอดลิ้งค์จากมอเตอร์จุดที่อ ัดด้วยสไปลน์ซี่เล็กๆกับเพลากลไกปัดยืดหด แน่นมากถ้าไม่มีตัวช่วย จะไม่มีทางถอดออกได้ ลองใช้ใขควงแบนงัดก็ไม่ออก นึกขึ้นได้คราวที่แล้วเพิ่งซื้อตัวดูดลูกหมากมา เจ้าตัวที่จะถอดมันก็มีลักษณะคล้ายการดูดลูกหมากเหมื อนกันก็เลยลองเอามาอัดดู ได้ผลแฮะ ลั่นปังหลุดออกมาเลย (ก่อนถอดให้ทำมารค์ไว้ให้แน่นอนเห็นได้ชัดเจน มิฉนั้นอาจต้องถอดหลายหนเหมือนผม เพราะขนาดทำมาร์คไว้แล้ว พอประกอบใบปัดตำแหน่งหยุดดันไม่ได้ตำแหน่งจอดที่เดิม สูงเกินไปหน่อย เวลาปัดไปอีกข้างจะไม่บาลานซ์กัน) พอถอดออกถึงเฟืองเดือนเสี้ยว กะว่าจะนับฟันเอาไปซื้ออะใหล่ซะหน่อย ก็ปรากฏว่าเจอแต่ผงดำๆ ป่นๆเต็มเบ้า ที่เหลือชิ้นใหญ่หน่อยพอเอามือจับดูก็กรอบยิ่งกว่าข้ าวเกรียบ ตกลงเลยไม่รู้ว่าเฟืองมันมีกี่ฟันกันแน่ เลยต้องยกเอาเบ้าเฟืองไปซื้ออะใหล่ด้วย ลองดูเฟืองมีตั้งหลายขนาดมีจำนวนฟันไม่เท่ากัน(35 36 37 ฟัน) ไปลงตัวพอดีกับเฟือง 36 ฟัน เข้าเบ้าพอดี ใหนๆถอดออกมาแล้วก็เลยรื้อต่อไป ที่ฝาบนลักษณะคล้ายกระดองเต่า เพื่อหล่อลื่นกลไกซะหน่อย ถอดสกรูแค่ 3 ตัวก็เปิดได้แล้ว เมื่อเสร็จแล้วประกอบกลับอย่างเดิม พอใส่เข้าลองเปิดดู อ้าว...มันปัดเอียงไปแถบหนึ่ง ต้องถอดออกมาตั้งจุดหมุนใหม่ถึงสามรอบจึงได้ที่ นี่ขนาดมาร์คแย้วนะเนี่ยะ...เฮ้อ รื้อออกทีละชิ้นใกล้ถึงตัวแย้ว ![]() ชิ้นส่วนออกมากองไว้ก่อน ![]() ออกมาแว้ว ![]() ได้ใช้เครื่องถอดลูกหมากอีกรอบ คุ้มจริงๆ ![]() เจอแต่ชิ้นส่วนป่นๆของเฟือง ![]() นี่เฟืองตัวใหม่ 36 ฟัน ไส่เข้าไปแย้ว ![]() ตอนประกอบกลับต้องให้ลิ้งอยู่ในตำแหน่งเดิมเป้ะๆ ไม่งั้นแพทเทรินการปัดที่กระจกด้านซ้ายและขวาจะไม่เท ่ากัน ![]() ใหนๆก็ถอดออกมาแย้วเลยเปิดกระดองเต่าจัดการหล่อลื่นด ้วยจารบี และปรับตัวบังคับสองข้างให้ขนานกันซะใหม่ ทำให้คล่องกว่าเดิม ![]() Last edited by Manit; 24-03-2012 at 02:31:15 AM. |
![]() |
![]() |
![]() |
#16 |
Join Date: Oct 2008
Posts: 803
Thanks: 279
Thanked 212 Times in 77 Posts
|
![]()
ของผมผูกหางไปเลียบร้อยแล้ว ไมมียืดไม่มีหดปัดอย่างเดียว
![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#17 |
Join Date: Feb 2006
Location: Bangkae
Posts: 2,237
Thanks: 1,064
Thanked 633 Times in 280 Posts
|
![]()
ขอบคุณครับพี่มานิตย์
คราวหน้าถ้าเฟืองมันพังอีก จาไปซื้อ ไอ้ตัว3 ขา มาทำเองดีฝ่า ประหยัดเงิน .. ได้ความรู้ .. มีไอ้ตัว 3ขา ไว้ดูเล่นอีก....อิอิ ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#18 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#19 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#21 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
ของผมแตกป่นหมด เลยไม่รู้เหมือนกันว่ามีกี่ฟัน เลยต้องใช้วิธียกเบ้าเฟืองไปที่ร้านอะใหล่ด้วย แล้วลองใส่ทีละตัว ตัวใหนพอดีเป้ะๆก็เอาตัวนั้นเลยครับ
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#22 |
Join Date: Feb 2008
Posts: 78
Thanks: 0
Thanked 4 Times in 2 Posts
|
![]()
โดนมาเหมือนกัน (ขับรถ+ฝนตก+ปัดน้ำฝนด้วยมือ) เออ........
สำหรับ 190E เฟือง 36 ฟันครับผม |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#23 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
จากการเปลี่ยนเฟืองวงเดือนคราวที่แล้ว เวลาก็ล่วงเลยมา 1 ปี 11 เดือน ไวเหมือนโกหก เจ้าเฟืองวงเดือนก็ลากลับบ้านเก่าซะแล้ว ความจริงเปิดใช้งานไม่กี่ครั้ง แต่ดูแล้วทำไมมันแก่เร็วจังฟันฟางหักหร่อยหรอหักไปหล ายซี่จนทำให้เจ้าแขนเดียวยืดแล้วหดเหลือไม่เท่าเดิม จึงต้องมีการรื้อกันออกมาอีกรอบ คราวนี้รู้สึกว่าไม่ยาก แป้บเดียวก็ออกมาแย้ว ไปซื้อเฟืองที่ร้านใกล้บ้านเป็นสีดำ 36 ฟันอันละ 300
จากการพิสูจน์ทราบพบว่าฟันเฟืองที่หัก หักแบบเรียบร้อยไม่มีการเยินแม้แต่น้อย แถมขอบเฟืองก็มีการแตกร้าว นั่นย่อมแสดงว่าเกิดการเสื่อมสภาพในเนื้อพลาสติคเอง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเจ้าจาระบีที่ใช้หล่อลื่นเฟืองน ั่นเองเป็นตัวทำลายอายุของเฟือง ก็เลยลองปรึกษาอาจารย์กูเกิ้ลดู ก็ได้ความว่าต้องเป็นจารบีประเภทลิเธียม หรือพวกโมลีโค้ต จึงจะเหมาะกับพวกพลาสติค ก็เลยต้องเสียตังค์เพิ่มค่าจาระบีไปอีก 1 กระปุก เป็นจาระบีใส่ลูกปืนล้อประเภทโมลีโค้ตสีดำปี๋ ใส่ไปนิดหน่อยแค่บนฟันเฟืองเท่านั้น ก็คงต้องทดลองดูว่าอายุจะยืนกว่าเดิมหรือไม่ นี่ไงแก่ไวจัง ฟันฟางหักหมดแย้ว... ![]() เทียบกับของใหม่ ![]() จาระบีที่ว่า ไม่รู้จะได้เรื่องใหม... ![]() Last edited by Manit; 24-03-2012 at 01:45:02 AM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#25 |
Join Date: Oct 2007
Location: ลำลูกกา คลอง 4
Posts: 638
Thanks: 194
Thanked 363 Times in 113 Posts
|
![]()
ร้านอะไหล่เฟืองที่พี่มานิตไปซื้อนี่ เป็น ร้านขายแต่เฟืองอย่างเดียว ไม่ใช่ร้านขายอะไหล่รถใช่ไหมครับ?
|
![]() |
![]() |
![]() |
#26 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
ไม่ใช่ครับ เป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ทั่วไปนี่แหละครับ บังเอิญว่าร้านนี้เขาขายอะไหล่เบนซ์บางอย่างด้วยครับ ร้านอยู่ปากทางเข้า รพ.บีแคร์ กม. 26 ครับ
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#28 |
Join Date: Jan 2008
Posts: 2,792
Thanks: 200
Thanked 2,841 Times in 1,167 Posts
|
![]()
ไขหลอลื่นของเดิมที่แกนปัดน้ำฝนดีมากๆ อายุเท่าตัวยังคงคุณสมบัติหล่อลื่นได้ดี ที่สำคัญไม่ดูดฝุ่นเข้าไปผสมกับตัว ทีแรกนึกว่าหมดอายุหยิบทิ้งไปซ่ะก้อน เสียดาย อยากหาแบบเดิม ไม่รู้จะหาที่ใหน
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#30 |
Join Date: Jan 2006
Location: Saimai Bangkok
Posts: 6,397
Thanks: 2,833
Thanked 5,582 Times in 1,236 Posts
|
![]()
หลังจากเปลี่ยนเฟืองปัดน้ำฝนไปเมื่อคราวที่แล้ว 10 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ขณะขับรถไปวัดที่เขาเขียวเมื่อต้นเดือนนี้ มีฝนเทลงมาก็เลยใช้ที่ปัดน้ำฝนได้พักเดียวมันก็ยืดไม ่ยอมหดซะแล้ว แถมไปขัดติดอยู่ที่ขอบกระจกอีกด้านด้วย ก็เลยต้องรีบปิดสวิทช์แล้วจอดรถฝ่่าฝนลงไปดึงมันออก ไม่งั้นฟิวส์อาจขาดหรือไม่ก็มอเตอร์ปัดน้ำฝนอาจใหม้ไ ด้ ...เฮ้อ มันเอาอีกแล้ว นี่ถ้าคิดเป็น ชม. การใช้งานเนี่ยถือว่าน้อยมากเลยเนี่ย ใช้จริงๆสัก 10 ครั้งได้มั้ง
![]() พอถอดออกมาดูก็พบว่าฟันเฟืองบางส่วนได้หักออกไปแล้ว เหมือนกับว่ามันไม่แข็งพอที่จะรับภาระได้นานๆ หาซื้อตัวใหม่มาใส่(250 บาท)เป็นของเทียมอีกตามเคย ลองใช้จาระบีของเบนซ์ที่พี่สี่เคยให้มาใส่ดูน่าจะดี คงต้องดูต่อไปว่าจะใช้ได้นานเท่าไรต่อไปครับ ถ้าเป็นเฟืองของแท้น่าจะทนกว่านี้ หรือไม่ก็ไปสั่งกัดเฟืองอลูมีเนียมมาเลยก็น่าจะหมดปั ญหาไป ![]() Last edited by Manit; 09-04-2011 at 02:32:46 PM. |
![]() |
![]() |
![]() |
Thread Tools | Search this Thread |
Display Modes | |
|
|