|
|
05-02-2018, 08:38:09 PM
|
#1 |
Join Date: Dec 2014
Location: Thailandd
Posts: 351
Thanks: 99
Thanked 69 Times in 35 Posts
|
จิตตกเรื่อง ความร้อน W202 C220
สวัสดี สมช. ทุกท่าน
สื่อเนื่องมาจาก กะทู้เก่า หม้อน้ำรั่ว เเก้ไขเรียบร้อยเเล้ว ไม่มีรั่วใดๆ http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=86174 - เรื่องความร้อนยังคงคาใจ (เล่นเอาจิตตกไปเลย) สมช. ท่านใดมีข้อเสนอเเนะรบกวนชี้นำด้วยครับ - ตั้งหน้าตั้งตาหากะทู้ ต่างๆ ลงความเห็นว่า ฟรีคลัช ทำงานไม่ค่อยดีเเล้ว เลยตัดสินใจเปลี่ยน - วันที่ 1 อะไหล่ ฟรีคลัช FREDY Made in Taiwan มาถึงจัดการถอด ระหว่างถอด ฟรีคลัช รู้สึกได้ว่าโยกได้ ดูไปดูมา ฟรีคลัช ยึดกับ ปั้มน้ำ เลยคิดไปว่า ปั้มน้ำมันเสียนี้หว่า เลยประกอบกลับ เเละสั่งปั้มน้ำมาใหม่ - วันที่ 3 อะไหล่ ปั้มน้ำ KWE Made in Italy มาถึงดำเนินการถอด ขณะถอดสายพาน ได้ยินเสียง กึๆ มันดังมาจาก โชค ดึนสายพาน เลยรีบทำส่วนนี้ก่อน เลยหยุดการคิดที่จะถอด ปั้มน้ำ หันไปทำ บูช ใหม่ * (โดนฟันหัวเเบะเลย ราคาโครตเเพง 300 บาท) - วันที่ 4 เช้าสดใส ดำเนินถอด ปั้มน้ำ เรียบร้อย เเละมองเห็นว่าห้องเครื่องสกปรก เลยหยุดดำเนินการ ออกไปตลาด หาซื้อ น้ำยาล้างห้องเครื่อง - วั้นที่ 4 บ่ายๆ ล้างห้องเครื่อง เสร็จ เริ่มประกอบ ปั้มน้ำ โชคตั้งสายพาน เเละ ฟรีคลัช ผลสรุป อะไหล่เเต่ละชิ้น - สภาพ ฟรีคลัช ยังฟืดดี เท่าๆ กับของใหม่เลย (เสียตังฟรี) เเต่เเรงลมมันเเรงกว่าเดิม ... งง เหมือนกัน - สภาพ ปั้มน้ำ สุดจะเน่า มีเเต่ตะกรัน เเบริง เสีย (สาเหตุมาจากตัวนี้เเน่นอน) เลยคิดต่อไปว่า หม้อน้ำคงจะต้องเปลี่ยนในเร็ววันนี้ (เเต่จะดูไปสักระยะก่อน) - โชค ตั้งสายพาน เเน่ ปึก เสียงที่เคยได้ยินในห้องเครื่องเมื่อก่อน เงียบเลย  - วันที่ 4 เย็นๆ ทดสอบความร้อน ผลลัพธ์ คือ  * หมายเหตุ - วันพรุ้งนี้ จะลองเข้าเมื่องตอนเที่ยงๆ เเดดจัด รถติดๆ จะดูว่าความร้อนเท่าไหร่ ... |
|
|
|
05-02-2018, 09:38:48 PM
|
#2 |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,356
Thanks: 3,599
Thanked 9,348 Times in 2,659 Posts
|
ก่อนเปลี่ยนพัดลมไฟฟ้าผมเคยจิตตกเกี่ยวกับความร้อนรถ ของผม
ซึ่งรุ่นเดียวกับท่านมาก่อน แก้ไขตามลำดับคือล้างหม้อน้ำเปลี่ยน วาล์วน้ำ ตอนหลังเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ เปลี่ยนปั้มน้ำใหม่ฯลฯ ไม่หาย จนกระทั่งพบว่า โดนหลอกมาตลอดจากเกจวัดความร้อนมันเสีย (ตอนนั้นผมมีเซ็นเซอร์ความร้อนจากเครื่องวัดความร้อน อีกตัว) จึงซื้อหน้าปัทม์มาใหม่(ของเก่า) ตัวหนึ่ง ถอดเอาเฉพาะเกจ วัดความร้อนมาเปลี่ยน มันก็แสดงค่าที่ถูกต้อง หลงงงอยู่นาน ไม่อาจจะยืนยันความเห็นนี้ได้กับรถทุกคัน เพราะรถอายุเยอะๆ อะไรๆ ก็เกิดได้ ผลออกมาเหมือนกัน แต่ต้นเหตุอาจจะมาจาก สาเหตุที่ต่างกันได้ ขอให้โชคดี อนึ่งตัวโช๊คอัพสายพานของใหม่ ๆยี่ห้อ บิลสไตน์ ราคาหลังวัดโสม ประมาณ 550-600 บาท ซื้อเปลี่ยนใหม่ดีกว่า ผมก็เคยซ่อมบู๊ช โช๊คอัพนี้เหมือนกัน แต่ไม่นาน มันก็เสียอีก เปลี่ยนไปดีกว่าจิตตก แป๊บเดียวตอนเสียเงินซื้อ แต่ไม่จิตตกบ่อยๆตอนมันส่งเสียงดัง เปลี่ยนลูกปืนลูกรอกตัวปรับพัดลมพร้อมกันไปด้วย เงียบไปนาน (วันก่อนขออภัยท่านที่โทรเข้าไปสอบถามผม แต่ผมบอกว่านอนแล้ว เนื่องจากช่วงนั้นไม่ค่อยสบายครับ) |
|
|
|
| คำขอบคุณจาก : |
|
05-02-2018, 10:04:28 PM
|
#3 | |
|
Join Date: Dec 2014
Location: Thailandd
Posts: 351
Thanks: 99
Thanked 69 Times in 35 Posts
|
วิธีการ ล้างหม้อน้ำ
อ้างถึง:
http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=67324 - อยากส่ง น้ำบูดู เเท้ๆ ให้ ไปถามที่ไปรษณีย์ เค้าไม่รับเพราะมันจะเเตกระหว่างขนส่ง - วันนี้ตั้งใจ จะถอดหม้อน้ำ ออกมาล้างเเต่สังเกตเห็นว่า มีสายน้ำมัน ต่อเข้า 2 จุด ไม่กล้าถอด กลัวน้ำเข้าในห้อง เกียร์ เลยใช้วิธี ใส่น้ำ เเล้ว ให้มันไหลออก เเต่ก็ไม่มีอะไรออกมาเลย * หมายเหตุ พยายามหากะทู้ ก็ไม่เจอเลย - ถ้าท่านมีวิธีการล้างที่ถูกต้อง รบกวนเเนะนำมาด้วยครับ MJ รักเเละเคารพ พี่ Coffee Cup มากๆ ครับ |
|
|
|
|
| คำขอบคุณจาก : |
|
05-02-2018, 10:23:53 PM
|
#4 |
|
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,356
Thanks: 3,599
Thanked 9,348 Times in 2,659 Posts
|
ขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรี แต่พอดีผมไม่เคยทานน้ำบูดู
ท่อน้ำมันเกียร์ที่ส่งเข้าไประบายความร้อนในหม้อน้ำ สามารถถอดได้ไม่ยาก น้ำไม่เข้าไปในท่อได้หรอกครับ ในเมื่อก่อนถอด เราก็ปล่อยน้ำทิ้งหมดแล้วมันจะเข้าไป ในท่อน้ำมันเกียร์ไม่ได้ อีกประการหนึ่งมันแยกห้องกัน ไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าจะล้างควรถอดหม้อน้ำออกมาล้าง เขย่าให้สะอาด การล้างหม้อน้ำที่ติดกับรถ อาจจะล้างได้ เพียงส่วนน้อย ตรงส่วนล่างสุดของหม้อน้ำปกติจะมีตะกอน สกปรกตกอยู่ค่อนข้างมาก จะล้างให้สะอาด(มากหน่อย) ก็ควรถอดออกมาล้างนอกรถ ตอนถอดท่อน้ำมันเกียร์ออกมาก็เตรียมหนังยางรัด และ แผ่นพลาสติก หรือถุงก๊อปแก๊ปเอาไว้หุ้มรัดกันน้ำมันไหล ก่อนก็ละกัน อนึ่งตามภาพในกระทู้ที่ยกมา ความร้อน 90 กว่า ๆ ไม่เปิดแอร์ ผมถือว่าปกตินะ เพราะไม่เปิดแอร์ กว่าพัดลมจะหมุนความร้อน ต้องไปชน 105 โน่นแหละ ถ้าเปิดแอร์พัดลมจะหมุนตามแรงดัน น้ำยาแอร์ และความร้อนหม้อน้ำ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสอง อย่าง Last edited by Coffee Cup; 05-02-2018 at 10:32:04 PM. |
|
|
|
| คำขอบคุณจาก : |
|
06-02-2018, 10:34:23 PM
|
#5 | |
|
Join Date: Dec 2009
Posts: 1,045
Thanks: 344
Thanked 991 Times in 307 Posts
|
อ้างถึง:
|
|
|
|
|
| คำขอบคุณจาก : |
|
07-02-2018, 08:28:24 PM
|
#6 | |
|
Join Date: Dec 2014
Location: Thailandd
Posts: 351
Thanks: 99
Thanked 69 Times in 35 Posts
|
ความร้อน จิตตกเรื่อง ความร้อน W202 C220
อ้างถึง:
- รูปขวา คือ หลังดำเนินการ เปลี่ยนฟรีคลัช - ปั้มน้ำ * ต้องการให้เป็นไปตามเงือนไขเดียวกัน ไม่เปิดเเอร์ ทั้ง 2 กรณี * ล่าสุด เปิด แอร์ กลางวัน รถติดไม่ค่อยติด  * วันนี้ 8 กพ. 61 - ล้างหม้อน้ำ เเละเปลี่ยน วาว์ลน้ำ 71 - ผลที่ออกมา คือ รถติดๆ 87 รถวิ่ง 83  * ขอจบเรื่องความร้อนเท่านี้ครับผม ... Last edited by MJ_AutoBahn; 08-02-2018 at 10:55:06 PM. Reason: พิมพ์ผิด |
|
|
|
|
|
11-11-2020, 11:54:49 AM
|
#8 | |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,402
Thanks: 3,222
Thanked 1,495 Times in 1,125 Posts
|
อ้างถึง:
เซียนพันธุ์แท้เบนซ์ ใช้เบนซ์มาตลอดแน่ๆ ไม่จิตตกเมื่อเห็นเข็มอยู่กึ่งกลาง80/100C ท่านใดชินกับรถญี่ปุ่น แหยงๆกับตัวเลข100องศา..แน่ๆ ท่านลองศึกษาตำแหน่งวาล์วน้ำ ระหว่าง2สัญชาติดูก่อนครับ ที่โค้ดมาคุย ก็เพราะเจอมาทุกรูปแบบแล้ว ขอคิดต่างเรื่องพัดลมไฟฟ้าสูตรลุง4นิดนึง สมาชิก..ท่านImage ขออ้างอิงนะครับ ก็กลับมาใช้พัดลมฟรีปั้ม ซึ่งทั้งแบบแตนๆจากเยอรมัน หรือโมเป็นพัดลมดูด2ตัวแทนฟรีปั้ม ก็ลดความร้อนได้ แต่ส่วนอื่นๆก็สำคัญ หม้อน้ำเอย.. ปั้มน้ำ โดยเฉพาะอย่างหลัง 90%เปลี่ยนเพราะน้ำรั่วใต้ปั้มน้ำ น้ำหาย ไปหาช่างภึงทราบ ทั้งๆที่ปั้มน้ำสำคัญ ในการปั่นน้ำให้หมุนวน ทำให้ผมขุดกระทู้นี้มาสนทนาต่อ ขอชื่นชม จขกท.ในเรื่องการซ่อมบำรุง แม้ว่าจะใช้วาล์วน้ำผิดไป ก็ทำความเข้าใจใหม่ ไม่สายเกินไปครับ |
|
|
|
|
 |
| Thread Tools | Search this Thread |
| Display Modes | |
|
|
Linear Mode
