![]() |
![]() |
![]() |
#1 |
Join Date: May 2012
Posts: 1,478
Thanks: 401
Thanked 2,686 Times in 1,031 Posts
|
![]()
เมื่อวานผมพาฟอร์จูนเนอร์รุ่นแรก เป็นรถขับสี่ล้อใช้มาสิบกว่าปีแล้วไปเที่ยวบนดอยอ่าง ขาง ใช้เส้นทางม่อนปิ่นขึ้นไปบ้านนอแลซึ่งเป็นเส้นทางที่ ไม่ดี เปลี่ยว และชันที่สุด แต่ก็ขับขึ้นไปได้แบบสบายๆ
ถึงบ้านนอแลไปแวะชมฐานปฏิบัติการทหาร โดยจอดรถตากแดดทิ้งไว้ข้างล่าง อยู่ตรงนั้นราวครึ่งชั่วโมงก็ลงมาขับรถต่อ กะจะขึ้นไปชมสถานีเกษตรหลวง แต่พอขับรถออกมารู้สึกทันทีว่ารถไม่มีแรง จะขึ้นเนินแต่ละทีเหยียบคันเร่งจนสุดแต่รถเคลื่อนไปช ้าๆ รอบเครื่องขึ้นประมาณ ๑,๕๐๐ ผ่านไป ๒ เนิน แน่ใจว่ารถผิดปกติ อายวีออสที่ขับตามมาข้างหลัง คิดหาเหตุที่น่าจะเป็น รถคันนี้แม้จะสิบกว่าปีแล้วแต่ก็ใช้มายังไม่ถึงแสนโล เกียร์ไม่น่าจะพัง วิ่งลงเนินดึงเกียร์ลงไปที่เกียร์ ๒ หรือ L มันก็ยังฉุดรถไว้ได้ เชื่อว่าเกียร์ไม่เป็นไร ใจเริ่มฝ่อ จะหาทางลงดอยแต่ข้างหน้ายังต้องปีนขึ้นเป็นระยะแล้วจ ะไปได้อย่างไร ขับต่อมาเรื่อยๆ เหลือบดูเกจ์เทอร์โบ เจอเลย เข็มไม่กวาดขึ้นเลยครับ ระบบอัดอากาศต้องมีปัญหาแน่แล้ว ขับไป เจอรถกลุ่มหนึ่งจอดอยู่ เห็นเปิดฝากระโปง ผมเห็นว่ามีพวกแล้วเลยไปจอดใกล้ๆกับเขา ดับเครื่องเปิดฝากระโปงคลำหาจุดที่เคยต่อสายเกจ์ไว้พ บว่ายังเรียบร้อย แต่อีกด้านที่ติดกับท่อร่วมไอดีมันหลุดออก ด้านนี้ผมไม่เคยแตะต้อง เดิมๆจากโรงงาน ปลายท่อยางที่มันหลุดออกมามีรอยแตก ทำให้ท่อมันหลุด โชคดีที่สายมันยังยาว เอาคัตเตอร์ตัดแล้วเสียบคืนเหมือนเดิม มันแคบเสียบยากน่าดูแต่ก็ต้องพยายาม ในที่สุดก็เรียบร้อย ประกอบกลับลองขับดู เห็นเกจ์ขึ้นแล้ว รถเป็นปกติ สังเกตดูตอนที่ขึ้นทางชันสุด แรงดันขึ้นถึง 15 PSI ซึ่งถ้าวิ่งทางราบสูงสุดก็แค่ 10 PSI ผมนำประสบการณ์มาเล่าแก่พวกท่าน ถ้าผมไม่มีความรู้บ้างคงต้องนอนบนดอย ไม่ก็เดือดร้อนผู้อื่น โชคดีที่ผมชอบเรื่องพวกนี้ เห็นเครื่องมือก็ซื้อไว้ตามความชอบแล้วลืมเอาลงจากรถ ผมจัดการรถผมเสร็จขับตามกลุ่มที่เปิดฝากระโปงตอนแรกไ ป เจอเขาเปิดฝากระโปงอีกครั้งบนเนินห่างจากจุดแรกประมา ณ ๓๐๐ เมตร เข้าไปสอบถามได้ความว่าความร้อนขึ้นจนน้ำน่าจะแห้ง เขาบอกว่าก่อนมาหม้อน้ำเขารั่วเห็นน้ำหยด เขาเทน้ำลงในหม้อน้ำ น้ำร้อนก็พุ่งออกมา ผมบอกว่าไม่ควรขับต่อ หารถสไลด์มาบรรทุกกลับไปดีกว่า เขาถามอย่างแปลกใจว่า "ต้องขนาดนั้นเลยหรือ" ผมไม่ตอบเพราะกลัวเขาเสียกำลังใจ ประเด็นที่อยากบอกสมาชิก ท่อแว๊คคั่มหรือท่อแรงดันที่มันเสียบติดกับชิ้นส่วนเ ครื่องยนต์ มันได้รับความร้อนตลอด นานวันมันก็แตก จึงควรตรวจสอบด้วยครับ Last edited by Cobra4971; 17-02-2019 at 07:21:13 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#2 |
Join Date: Jun 2012
Location: Chiangmai/Bangkok
Posts: 552
Thanks: 2,015
Thanked 499 Times in 208 Posts
|
![]()
ตั้งแต่มาอยู่ฝางนี่ ไปเที่ยวทั่วรึยังครับ?
|
![]() |
![]() |
![]() |
#3 |
Join Date: May 2012
Posts: 1,478
Thanks: 401
Thanked 2,686 Times in 1,031 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#4 |
Join Date: Jun 2014
Location: bkk
Posts: 1,269
Thanks: 1,635
Thanked 761 Times in 525 Posts
|
![]()
เคยหลังจากการทำเครื่องมา
อาการรอบมาแต่รถวิ่งไม่ออก ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เป็นไร เลยคลำหาท่อแวคคั่มมันหลุดหลวมจริงๆช่างคงใส่ไม่แน่น (หรือวางยาไม่รู้) พอสำรวจและเสียบ-ใช้เคเบิ้ลไทรมัด-อาการดังกล่าวก็หาย-ถ้าคนไม่รู้คงยกเกียรไปแล้วครับ |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#5 |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]()
ขอบคุณทีึ่นำปัญหามาเล่าสู่กันอ่านครับ
ปัญหาท่อแว๊คคั่มผมไม่เคยมีรถใช้เทอร์โบจึงไม่เคย มีประสบการณ์กับท่อแว๊คคั่มเทอร์โบ แต่เคยพบแต่ปัญหาจากท่อแว๊คคั่มเซนเซอร์แก๊ส(ของรถอื ่น ที่ไม่ใช่รถเบนซ์ แตกเปื่อยแบบนี้ ผลคือเครื่องเดินกระตูก กระตัก รถไม่มีแรง จะดับก็ไม่ดับ จะเดินนิ่งก็ไม่นิ่ง กับแว๊คคั่มเกียร์(ของเบนซ์คันเดียวนี้แหละ) ถูกหนูกัด ทำให้เปลี่ยนเกียร์กระตุกกึกกัก ไม่รู้ว่ามันน่ากินตรงไหน กับปัญหาแว๊คคั่มล๊อกประตู ลมรั่ว ทำให้ให้มอเตอร์มันทำงาน บ่อย ๆ แป๊บ ๆ ก็ทำงาน เป็นที่น่ารำคาญมาก/และแว๊คคั่มปรับทิศทางแอร์เป่าใส่ กระจกรถตลอดเวลา น่ารำคาญเหมือนกัน แต่ขับรถกลางวัน ไม่ก่อปัญหา ก่อปัญหาตอนฝนตก และกลางคืน กระจกเป็นฝ้า ปัจจุบันอีกปัญหาที่พบ คือแว๊คคั่มปรับไฟสูงไฟต่ำปรับไม่ได้ ไม่รู้ว่ารั่วตรงไหน เลยไม่ได้แก้ไขครับ เพราะวิ่งรถบนพื้นใน กทม.จึงไม่มีปัญหามาก เหมือนกับเกิดปัญหานี้บนที่เนินขึ้นเขาลงเขา แต่ไม่ว่าปัญหาจะเกิดกับอะไร มันก็สร้างความ ไม่ปกติวุ่นวายให้เราทั้งนั้นครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
#6 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
พวกท่อแวคคั่มแตก กาวขี้หมาพอแก้ขัดได้ครับ ผมเคยเจอ ไม่รู้จะหาอะไรอุด แกะเอากาวขี้หมาที่ช่างเขาอุดช่องแอร์แปะก็พอไปได้คร ับ
![]() Last edited by se278; 23-02-2019 at 08:28:18 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#7 | |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]() อ้างถึง:
แต่ถ้าเป็นท่อยางแว๊คคั่ม และมีความยาวเหลือพอ การตัดปลายและเสียบใหม่ ก็เป็นทางแก้ ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง แต่ปัญหาหาซ้ำซ้อนก็คือ ในรถหาคัทเตอร์ หรือคีมคม ๆ ไม่ได้ ทางออกอย่างหนึ่งที่เคยได้ผลก็คือ ตะไกรตัดเล็บของคุณผู้หญิงที่เธอมักจะพกเสมอ ก็เคยช่วยได้ แม้อันจะเล็ก ตัดทีเดียวไม่รอบ ค่อยๆ ตัดไปก็ยังดีกว่าหาอะไรไม่ได้ ทางที่ดีควรพกอุปกรณ์จุกจิกพวก คัทเตอร์คีม เทปพันสายไฟ สายแว็คคั่ม ฯลฯ ใส่กล่องเครื่องมือ ไว้ท้ายรถยามเดินทางเสมอๆครับ ปัญหาเรื่องยางอะไหล่ของรถติดแก๊สอีกอย่าง แม้ไม่ได้เดินทางไกล แต่ผมก็ต้องขึ้นรถแท๊กซี่ กลับบ้านมาเอายางอะไหล่ไปใส่รถก็เคยแล้ว ครั้งหนึ่ง ดีว่าไม่ได้อยู่ไกลมาก แค่5-6 กม. ก็ไม่ได้เปลืองค่ารถแท็กซี่มากนัก |
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#8 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
เห็นกระทู้แล้วทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศอันน่าจดจำบนดอย อ่างขาง
เลยอยากมาเขียนเล่าประสบการณ์ดีๆ เพราะนานๆผมจะได้ไปเที่ยว ภาคเหนือกับเค้าบ้าง ด้วยความที่เป็นคนชอบรถ เลยตัดสินใจขับรถ ไปเอง โดยเส้นทางเริ่มจากสตูลบ้านเกิด>> กทม >> เขาค้อ >> เชียงใหม่ >> ดอยอ่างขาง >> เชียงราย >> กทม >> สตูล รวมระยะทางทั้งสิ้น(คำนวณจากgooglemap) 3,856กิโลเมตร ....ครั้งนั้นไม่ได้เอาปลาวาฬคู่ใจไป แต่เป็นฟอร์จูนเนอร์เกียร์ธรรมดา ผมไปเมื่อหน้าฝนที่ผ่านมา คนน้อยมากเพราะนอกการฤดูท่องเที่ยว แต่บรรยากาศบนดอยหน้าฝนนั้นช่างน่าจดจำยิ่งนัก ผมค้างคืนที่นั่น หนึ่งคืน เที่ยวชมบริเวณศูนย์เกษตรอ่างขาง บ้านนอแล/ขอบด้ง จุดชมวิวม่อนสน จิบกาแฟกลางสายหมอก แล้วแวะกินข้าวซอยยูนาน ที่หมู่บ้านหลวง ที่นั่นเป็นชุมชน มีทั้งวัด มัสยิดของชาวจีนฮ้อ ...... รถที่ใช้ตอนนนั้นเป็นฟอร์จูนเนอร์ตัวแรกเช่นเดียวกับ จขกท แถมเป็นเกียร์ธรรมดา ขับขึ้น/ลงดอยบอกได้คำเดียวว่ามันส์มาก และก็ไม่มีปัญหาใดๆครับ เคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่าถ้าเสียระหว่าง ทางบนดอยขึ้นมานี่มีหลอนแน่ๆ เพราะแทบไม่มีรถสัญจรไปมาเลย บรรยากาศมีแต่ความหนาวสลับสายฝนพรำดูลึกลับชวนให้ค้น หา (แต่ขออย่างเดียวอย่าให้รถมาเสียก็เป็นพอ) >>>>>อย่างไรก็ตาม ที่เล่าทั้งหมดอาจจะยังไม่เกี่ยวข้องแวคคั่ม ซักเท่าไหร่ แต่มีอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรถกระบะเทอร์โบอีกคั น (mitsubishi triton)ระหว่างที่กำลังขับรถกลับจากกทม.เมื่ออทิต ก่อน ขณะที่อยู่ช่วงจังหวัดชุมพรขับอยู่ดีๆเสียงเครื่องก็ ดังขึ้นกว่าปกติ รถกำลังตกไปกว่าครึ่ง เร่งไม่ออก แถมไฟเครื่องก็โชว์ แต่รถก็พอวิ่งได้ ขณะนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน จะจอดข้างทางก็มืดสนิท เลยคิดว่าไป เรื่อยๆจนกว่าจะเจอปั้ม แต่ก็โชคดีครับ ขับต่ออีกไม่ไกลก็ถึงจุดพักรถ ที่ชื่อ"คุณสาหร่าย" ก็แวะเพื่อเชคดูและถือโอกาสรับประทานอาหาร กับดื่มกาแฟไปด้วยเลยทีเดียว .........จอดรถ เปิดกระโปรง สิ่งแรกที่สังเกตเห็นก็คือ ท่อไอดีหลุด !! จุดที่หลุดเป็นจุดที่ก่อนจะเข้าลิ้นปีกผีเสื้อ ซึ่งผ่านการอัดอากาศมาแล้ว พูดง่ายๆคือกลายเป็นเครื่อง N/A ไปซะงั้น โชคดีที่ไม่มีอะไรซับซ้อน จัดการหาแคล้มป์มารัดให้แน่น (ก่อนหน้านี้คงใส่มาไม่ดี เลยลื่นหลุด) ลองสตาร์ทเครื่องใหม่ ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เวลาตีหนึ่งเศษๆ เลย ได้ออกเดินทางต่อ และถึงที่หมายในตอนรุ่งเช้าครับ |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#9 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
ประสพการณ์เรื่องแบบนี้ ทำให้เราก็เกิดวิตกจริต หลังรถมีเครื่องมือ อะไหล่เพียบ รีเลย์ หลอดไฟ สูบไฟฟ้า ลวด เทปพันสาย มีด ค้อน เหล้า น้ำ ฯลฯ จนเพื่อนฝูงค่อนแคะว่า รถเองนี่จอดยกเครื่องได้เลย
หาบล้อคไร้สายติดรถไว้เบาแรงดี ชุดเครื่องมือติดรถซื้อแบบที่เขาขายเป็นชุดมีกระเป๋า ก็ดี มีครบเก็บเรียบร้อยดีครับ แต่ผมสะสมมาหลายยี่ห้อเป็นแกงโฮ๊ะ ไปไหนก็ยกลังใส่ท้ายรถไปเลย สำคัญคือเบอร์โทรศัพท์อู่หรือรถสไลด์ หรือไม่มีก็ 191 ![]() ปล.เหล้ามีไว้สำหรับเป็นสินน้ำใจ เวลารถเราเสียมีคนมาเข็นช่วย จะให้เงินก็ดูไม่ดี ครับ ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#10 |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]()
หลายปีแล้วสมัยยังใช้รถเปอร์โยต์ 405 ของผมไดชาร์จ
เสีย ไม่รู้ วิ่งจนไฟแบตหมด บังเอิญแวะเข้าไปจอดในปั้ม มีรถแท๊กซี่หลายคันขอความช่วยเหลือจั๊มสตาร์ท เค้าก็ยินดีจะช่วย แต่ปัญหาคือไม่มีสายพ่วง ต้องโทรศัพท์เรียกเพื่อนสนิทให้ขับรถ มาช่วย ตั้งแต่นั้นก็ซื้อสายพ่วงแบต และสายพ่วงลากรถ มีติดรถไว้ กับรถทุกคันที่บ้านมี แต่ไม่เคยได้ใช้กับรถตัวเองเลยสักครั้งก็ดีแล้ว แต่ได้ช่วยชาวบ้านให้ยิ้มได้หลายหนแล้ว หนที่ประทับใจที่สุด ในวัดมีงานบุญทางเข้าทางออกแคบและวันเวย์ ฝนก็ตก ทางก็เป็นดินโคลน คุณผู้หญิงแต่งชุดไทยเต็มยศ รถตกหล่ม และสตาร์ทจนแบตหมด เท่ากับ 2 เด้ง วันนั้นได้ใช้ทั้งสายจั๊มแบต และสายลากรถ รู้สึกดีมากที่ช่วยคนมาทำบุญ ทั้งๆที่มีคนอยากช่วยหลายคัน แต่เค้าทำไม่ได้เพราะไม่มีทั้งสายพ่วงแบต และ สายพ่วงลาก บางครั้งก็มีความสุขใจที่ได้ช่วยคนหมดหนทางให้พ้นทุก ข์ได้ Last edited by Coffee Cup; 16-10-2019 at 11:37:50 AM. |
![]() |
![]() |
![]() |
#11 |
Join Date: May 2012
Posts: 1,478
Thanks: 401
Thanked 2,686 Times in 1,031 Posts
|
![]()
ขอบคุณทุกท่านที่มาพูดคุยกันครับ คงเหลือพวกเราไม่กี่คนที่มาพูดคุยที่นี่ ความจริงผมก็มีกลุ่มไลน์เยอะแต่บางที่อ่านแล้วอยากออ กจากกลุ่ม
ผมขับรถมามากกว่า ๓๐ ปี แต่พอมาอยู่ที่ฝางมีโอกาสได้ทดสอบฝีมือจึงรู้ว่าผมเพ ิ่งขับรถเป็น วันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปสัมมนาที่เชียงราย เห็นพอมีเวลาเลยไปทดสอบฝีมือที่ดอยแม่สลอง เส้นทางดูเหมือนจะชันกว่าดอยอ่างข่าง ผมเข้าทางด่านกิ่วสะไตแล่นบนสันเขาไปออกทางแม่จัน เป็นเส้นทางที่ขับสนุกน่าดู ส่วนมากเขาจะนั่งรถตู้เที่ยวกัน แต่อีโก้คาร์ก็ไปได้ ขากลับผมออกจากเชียงรายขับลงทางใต้ไปดูวัดร่องขุ่นแป ๊บหนึ่ง แล้วขับไปทางเชียงใหม่ เลี้ยวขวาเข้าอำเภอแม่สรวย ป่าแดด ข้ามเขามาอำเภอฝางรู้สึกได้เลยว่าเส้นนี้ขับง่ายกว่า บนดอยแม่สลองเยอะ ผมเหลือเวลาที่อยู่ฝางไม่นาน ๑ เมษานี้ กลับอีสานแล้ว ช่วงนี้พอมีเวลาไปศึกษาภูมิประเทศ เสียดายคนที่บ้านเป็นโรคความดันสู๊งสูง ขึ้นดอยทีไร ก็เสี่ยงเอาครับ |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#12 |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]()
การขับรถเดินทางไกล คือความบันเทิงในอดีตของผม
มีโอกาศจะไป ตจว.ใกล้ไกลเสมอ ๆ ตามแต่โอกาศอำนวย ตั้งแต่เริ่มทำงานก็ผ่อนรถทั้งๆที่เงินเดือนนิดเดียว จึงจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ซ่อมรถเองจากหนังสือรถ บ้าง จากเพื่อนบ้างจากครูพักลักจำจากอู่บ้างหนังสือ ที่อ่านมากคือแบบเรียน ปวช./ปวส.ช่างยนต์ วารสาร เกี่ยวกับรถยนต์ ฯลฯต้นเหตุ คือเงินน้อยแต่ชอบรถใหญ่กินน้ำมันเปลืองต้องประหยัด เรื่องค่าซ่อม ชอบซ่อมรถเองจนเป็นนิสัย แต่ปัจจุบัน ขับรถแค่แถวใกล้ๆ บ้าน ปีที่แล้วทั้งปี ขับรถไปแค่ 7 พันกว่า กม. ปีนี้จะหมด 2 เดือนแล้วเพิ่งขับรถไป ไม่ถึง 500 กม.เรื่องซ่อมรถเองหนักๆเลิกคิดไปเลย จากอดีตขับรถปีละ 3-40,000.-กม ทุกปี และคิดว่าต่อจากนี้นับวันจะยิ่งขับรถน้อยลง ๆ จนอาจจะขับต่อไปไม่ได้ภายใน 4-5 ปี หากยังมี ชีวิตอยู่ ตามสภาพสังขารครับ แต่ยังชอบคุยเรื่องรถ กับเพื่อน/เพื่อนบ้าน (ที่อยู่ในวัยชราด้วยกัน) การแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กัน บางครั้ง ก็ช่วยกันประหยัดเงินได้บ้างบางส่วน ทั้งเขาและ เราครับ เพราะเรามีความรู้และประสบการณ์ที่ อาจจะเกื้อกูลกันได้ครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
#13 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
เรื่องสายพ่วงแบต ผมเคยใช้สายเครื่องเชื่อมเหล็กรุ่นเก่า
พ่วงแบตให้พรรคพวก ขนาดยาวสิบกว่าเมตร กระแสไม่ดรอปเท่าไหร่ เพราะสายไฟเส้นใหญ่ เลยตัดเอาไว้ทำสายพ่วงติดรถ ตรงปลายใช้คีมล๊อคถูกๆแทนปากคีบ เสียดายมีคนยืมไปแล้วบอกว่าถูกขโมยไปขาย ทุกวันนี้หาซื้อสายแบบนี้แพงมากครับ แต่มีเหตุครั้งหนึ่งเจอรถเก๋งเสียไม่มีเชือกลาก ก็เลยเอาสายพ่วงนี้มาลากอ๊ะมันลากได้ ![]() อีกอันที่ใช้ได้ดีคือสายสลิงที่อยู่ในสายโทรศัพท์รุ่ นเก่าที่โยงตามสายไฟ มันเหนียวใช้ได้ผมเคยเอาลากรถปิ้คอัพมาแล้ว แต่ตอนแกะปมออกยากสุดๆ ต้องใช้หินเจียร์ตัดครับ ![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#14 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
พอพูดถึงเหตการณ์รถเสียระหว่างเดินทางไกล ก็อดนึกถึงเรื่องนึงไม่ได้
.....เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อผม เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วขณะที่กำลัง เดินทางจากหาดใหญ่เพื่อจะไปทำธุระที่กทม.โดยรถส่วนตั ว รถตอนนั้น น่าจะเป็นเปอโยต์รุ่นนึง(จำรุ่นไม่ได้แล้วครับ) .....ตอนอยู่ช่วงนครศรีธรรมราช ขับอยู่ดีๆรถก็ดับไปดื้อๆ ไฟทุกอย่าง ดับหมด สตาร์ก็ไม่ติด ทั้งที่น้ำมันเกือบเต็ม เวลาตอนนั้นก็ตี1กว่าๆ ถนนเพชรเกษมที่วิ่งเข้า กทม. สมัยนั้นยังเป็นสองเลนวิ่งสวนกัน รถก็ ไม่ค่อยมีให้เห็นวิ่งผ่านไปมาเหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นพ่อแกทำอะไรไม่ถูก เพราะทุกอย่างมืดสนิท เปลี่ยว ไม่มีบ้านผู้คน ไฟทางก็ไม่มี ไฟที่มีอยู่ อย่างเดียวคือ ไฟแช๊ค.. .....สมัยนั้นโทรศัพท์มือถือก็ยังไม่มี โทรบอกใครก็ไม่ได้ แกบอกทำใด้ อย่างเดียวคือตั้งสติ ทำใจร่มๆ จากนั้นก็จุดบุหรี่ Marlboro มาสูบเพื่อ ฆ่าเวลา หวังว่าเผื่อจะมีรถผ่านไปผ่านมาให้ความช่วยเหลือ ตอนนั้นก็ พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการพยายามไล่หาสาเหตุด้ว ยวิธี พื้นฐานทั่วไป เปิดกระโปรงรถ ดูหม้อน้ำ ทุกอย่างปกติ น้ำมันก็เพิ่งเติม มาไม่นาน ดูแล้วก็มืดแปดด้านสำหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านช่ างมา แต่ก็มาเอะใจก็ตอนที่มาเปิดดูกล่องฟิวส์ .....พ่อเล่าให้ฟังว่า ที่เอะใจเพราะเหมือนจะมีกลิ่นใหม้อ่อนๆตอนเปิด กล่องฟิวส์ออกมา ในค่ำคืนที่มืดสนิทเพื่อให้คลายข้อสงสัยเลยต้องพึ่ง ไฟแช๊ค สิ่งที่เห็นปรากฏว่าฟิวส์ขาดเกือบทั้งหมด! นี่คงเป็นสาเหตุ แต่ปัญหาคือ แล้วจะทำยังไงต่อ ฟิวส์สำรองก็ไม่มี คิดไปโน่นนี่ เครียด แต่สุดท้ายก็เหลือบไปเห็นซองบุหรี่Marlboro และแล้วก็ เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ พ่อแกคิดในใจเจ้า Marlboro นี่แหละที่พาเราออกไปจากที่นี่ ว่าแล้วก็จุดสูบต่ออีกมวน ![]() ........ให้ลองนึกภาพกระดาษฟลอยในซองบุหรี่ในสมัยก่อ น จะค่อน ข้างแข็ง หนา และสามารถนำไฟได้ครับ อาจจะเพราะเคลือบด้วยดีบุก หรือวัสดุตัวนำอะไรซักอย่างผมก็ไม่แน่ใจ พ่อเค้าเลยจัดการฉีกกระดาษ ออกเป็นชิ้นๆ ปั้นเป็นแท่งยาวๆให้สามารถคงรูปได้ เสียบเข้าไปแทนที่ ฟิวส์ที่ขาดทั้งหมด และปรากฏว่ารถกลับสตาร์ทติดครับ และไฟทุกดวง ก็กลับมาติดปกติ !! พ่อบอกว่าเหมือนยกภูเขาออกจากอก ตอนนั้นก็ ใกล้รุ่งแล้ว ขับต่อไปอีกสิบกว่าโลก็เจอปั้มที่รถสิบล้อมักจะจอดแว ะพัก แกก็เลยจอดพักรถจนสว่าง และเอารถให้ช่างที่อู่ในปั้มนั้นล่ะครับจัดการ ซ่อมให้ และขับรถไปต่อจนถึงกทม.ในที่สุด ![]() ![]() >>>> ผมก็คิดเหมือนหลายๆคนว่าอะไรที่ทำให้ฟิวส์ตัวสำคัญๆ ขาด พร้อมกันทีเดียวขนาดนั้น แต่รายละเอียดพ่อแกก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็น เพราะอะไรหรือซ่อมอะไรไปบ้าง แต่มานั่งคิดเล่นๆว่า น่าจะเกี่ยวกับตัว ไดชาร์จ หรือ voltage regulator นี่แหละ หรืออาจจะสาเหตุอื่นๆทำ ให้ฟิวส์ตัวสำคัญๆขาดได้ >>>>> ข้อคิดจากเหตการณ์นี้หลักๆน่าจะมีซัก 2 ข้อใหญ่ๆ 1. พยายามตั้งสติโดยเฉพาะในยามที่เจอเหตการณ์อันไม่คาดค ิด เพราะในที่สุดอาจจะมีทางออกหรือวิธีแก้ปัญหาซ่อนอยู่ ใกล้ๆตัวเรา 2. พยายามประยุกต์หรือปรับใช้สิ่งรอบตัวในการแก้ปัญหาให ้มาก ที่สุด เพราะบ่อยครั้งสิ่งที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญหรือมองข ้ามกลับ กลายมาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาพาเราออกไปจากสถานการณ์ท ี่ คับขันได้ ส่วนตัวผมแล้วได้ข้อคิดดีๆจากเหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนข ้างเยอะ เลยอยาก เอามาแบ่งปันให้พี่ๆใน BON เผื่อว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ในกับใครๆ ในอนาคตก็เป็นได้ครับ ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#15 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
ดอยอ่างขาง ผมเคยไปเมื่อปี 2520 ตอนนั้นจบใหม่ๆ เพื่อนไปเป็นลูกจ้างโครงการหลวง เอารถ ฮอนด้า GL125 ซ้อน 3 ขึ้นไป ทุลักทุเลพอสมควรกว่าจะถึง หนาวก็หนาว ทางยังไม่ลาดยาง อาศัยวิ่งในร่องล้อรถยนต์ ไม่ต้องกลัวตกเหว ขับรถตัวเปียกเหมือนขับรถลุยฝน ไปนอนเล่นเกือบอาทิตย์อาบน้ำหนเดียว
![]() แต่ทางเส้นนี้จะได้รับการปรับปรุงทุกปีเพราะเมื่อก่อ นในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านจะเสด็จทุกปี แม้จะไปเครื่องบินแต่พวกข้าราชการต้องไปด้วยรถ ทำให้ทางพลอยได้รับการปรับปรุงไปด้วย ทางในป่าเขามากมายได้รับการปรับปรุงก็ด้วยบารมีของพร ะองค์ท่านครับ สมัยรุ่นๆมันสนุก ถึงวันนี้มองนึกย้อนกลับไป ว่าถ้าเกิดหัวเทียนบอด โซ่ขาดจะทำอย่างไร ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#16 | |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]() อ้างถึง:
ผมว่าตอนนั้นเลือดคนหนุ่มมันแรง คงไม่กลัวหัวเทียนบอด โซ่ขาดหรอก เพราะตอนนั้นอยากไปให้ถึงอย่างเดียว ก็คงเป็นเช่นนั้นเกือบทุกคนแหละ เพื่อนผมบางกลุ่ม ช่วงระยะเวลาเดียวกันนั้น โบกสิบล้อเที่ยว ตจว. พวกเค้าก็ทำกัน สนุกสนามมาก สมัยนั้นสิบล้อยังยอม ให้โบกขึ้นได้สบายๆ สมัยนี้คงไม่มีคันไหนยอม ให้หนุ่มๆ โบกรถขึ้นไป ถ้าสาวๆ ละก็อีกแบบ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#17 |
Join Date: May 2012
Posts: 1,478
Thanks: 401
Thanked 2,686 Times in 1,031 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#18 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
นึกแล้วทำให้นึกถึงเสื้อกันหนาวทหารตัวใหญ่ๆ พวกผมเรียกแจ๊กเกตฟิล ไม่รู้ชื่อจริงเขาเรียกอะไร กับเป้ ถุงทะเล สมัยก่อนย้ายหอก็ถุงทะเลใบเดียว
สมัยนั้น รองเท้าผ้าใบ ยูเอส คอนเวริต นันยาง บาจา เกรดเดียวกัน ![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#19 |
Join Date: Jun 2014
Location: bkk
Posts: 1,269
Thanks: 1,635
Thanked 761 Times in 525 Posts
|
![]()
ฮ้า-ได้ฟังวัยรุ่นเค้าคุยกัน-ยุคนั้น
เราเกิดไม่ทันด้วยซิ 555 |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#20 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
กระทู้เพี้ยนไปแล้ว
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ต่ออีกสักหน่อย เรื่องรองเท้าสมัยนั้นรองเท้าหนังต้อง จิฟฟี่ เชคโก ซีโบ้ คล้าก(ต้องรุ่นไต่เขา) ทุกวันนี้ผมยังใส่รองเท้าคล้ากรุ่นใต่เขาอยู่ ![]() ส่วนเสื้อ/กางเกงง่ายครับใส่ของพ่อ สมัยนั้นนิยมทรงลุง (น่าจะมาจากคำว่าลุงชาลี แชลปปลิ้น ตลกชื่อดังของโลก) และต้องใส่มวกแก๊ปแบบเด็กส่งหนังสือพิมพ์อังกฤษ เข็มขัดต้องเดวี่ จาคอป แว่นตาเรย์แบน รุ่นแมคอาเธอร์ หรือรุ่นมีศูนย์(คือครงกลางมีวงกลมๆ)เลนส์เหลือง เสื้อเชริ๊ตต้องแอโรว์ แมนเชสเตอร์ ยีคิว เสื้อยืดต้องแฮงค์เทน ยีคิว กางเกงเจมาล์ เอสแฟร์ กางเกงยีนต้องลี พีเจ(มีกระดุมขาวๆ) ฮาร่า ลีวาย แรงเลอร์ แมคมาทีหลัง ถุงเท้าต้องคาร์สัน กางเกงในต้องลู๊ฟ สมัยนั้นวัยรุ่นชอบเล่นดนตรี แต่พวกนี้แก่มาชอบเล่นนักร้อง ![]() ![]() ![]() กลับมาที่เรื่องรถเสียระหว่างเดินทาง สำคัญตั้งสติ คิดว่ารอให้เครื่องเย็น อย่ารน โมโห หงุดหงิด รอสักพัก อาจจะคิดอะไรออก ครับ ![]() ![]() ![]() Last edited by se278; 01-03-2019 at 09:28:10 PM. |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#21 |
Join Date: May 2012
Posts: 1,478
Thanks: 401
Thanked 2,686 Times in 1,031 Posts
|
![]()
เสื้อผ้า รองเท้า แว่นตา ที่พี่ se278 ว่า ผมก็ทัน ยุคนั้นผมไม่มีปัญญาจะซื้อใช้ พอมีเงินจะซื้อได้เขาก็เลิกฮิต เคยซื้อยีนส์ยี่ห้อรองๆใช้และเหลือเป็นมรดกให้เด็กๆใ ส่ถึงทุกวันนี้เลยครับ
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#22 |
Join Date: Sep 2008
Location: Bangna Trad km.18
Posts: 2,346
Thanks: 1,591
Thanked 2,217 Times in 569 Posts
|
![]()
เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน
ผมขับ 124 เครื่อง 3.6 amg ไปทางเหนือ ก็แวะไปเรื่อยๆครับ ลำปาง เชียงใหม่ ผ่านอำเภอจอมทอง แล้วตัดเข้าดอยอินทนนท์ ไปทะลุขุนยวม แม่ฮ่องสอน มันพีคมากช่วงนึง คือ ผมดับเครื่องแวะบนเขา เพื่อถ่ายรูปวิว พอสตาร์ทรถเครื่องสั่น55 ตอนนั้นรถมีทั้งแก๊ส และ น้ำมัน ผมทำไงรู้ไหมฮะ สวดมนต์ไหว้แม่ย่านาง ขอรถอย่าเสียเลย สตาร์ทอีกที เครื่องหายสั่น ใช้น้ำมันล้วนอย่างเดียว ทางก็เปลี่ยว เที่ยวคนเดียวด้วย รถใช้ปกติ ขับไปเที่ยวน้ำพุร้อนเข้าไปลึกๆ ก็กล้าขับ จนมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ แถวประตูท่าแพ แวะจอดรถปั้บที่โรงแรมเพื่อนได้พักนึง ทีนี้สตาร์ทไม่ติดด้วย เลยตัดใจทิ้งรถ เพราะต้องรีบกลับไปงานต่อที่ชุมพร เลยถามรถสไลด์เจ้าประจำว่ามีไป ส่งรถที่เชียงใหม่บ้างมั้ย เค้าบอกมีไปส่งที่ลำปาง แต่อีก 2 วัน เลยวานให้เค้าเอารถกลับมาด้วย เสียค่าสไลด์ไป 8,000 สรุปเอารถมาส่งเข้าอู่ปั้บ แค่สายแวคคั่มกรอบแตก ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#23 | |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]() อ้างถึง:
โหดร้ายและขำไม่ออก ชีวิตอะไรจะโหดปานนี้ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เป็นบทเรียนสำหรับ คนอื่น ขอบคุณครับที่มาเล่า |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#24 |
Join Date: Sep 2011
Location: ขอนแก่น
Posts: 1,955
Thanks: 474
Thanked 2,386 Times in 1,004 Posts
|
![]()
เพราะกระทู้นี้ ผมไปได้ ฟอร์จูนเนอร์ 2.7V ปี 05 เดิมๆมา ไล่รื้อเปลี่ยนไปครบแล้ว ลงไปเกือบสามหมื่น ชวนเมียว่าหลังสงกรานต์จะลองเอาไปย้อนเส้นทางเดิมที่ เคยไป ค่ำไหนนอนนั่นครับ
![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#25 | |
Join Date: Mar 2009
Posts: 4,353
Thanks: 3,596
Thanked 9,346 Times in 2,658 Posts
|
![]() อ้างถึง:
เมื่อหลายสิบปีแล้วตอนผมและเพื่อนรักเพิ่งมีรถ สัญญากันว่าเมื่อเรามีโอกาศ จะขับรถไปกับครอบครัวคนละคัน ค่ำไหนนอนนั่นไปให้ทั่วไทย แตจากวันนั้น ถึงวันนี้ ผมขับรถไปกับลูกและภรรยาหลายรอบแล้ว ยังไม่เคยที่เพื่อนรักของผม เค้าจะมีวันว่างเลย แต่ตอนนี้ผมมีแต่วันว่าง แต่ไม่ใช่วันที่จะขับรถเองไป ตจว.ได้ครับ ไปได้แต่ซื้อกับข้าวตลาดแถวๆบ้านครับ ขอให้คนที่ยังมีความสามารถ ไปเที่ยวซะให้สนุกตั้งแต่ยังมีโอกาศครับ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#26 |
Join Date: Jan 2009
Location: Bkk & Pathumthani
Posts: 169
Thanks: 62
Thanked 58 Times in 22 Posts
|
![]()
ย้อนมานั่งอ่านกระทู้เก่าๆ รักพี่ๆรุ่นเก๋าจังครับ โดยเฉพาะพี่ถ้วยกาแฟ
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
Thread Tools | Search this Thread |
Display Modes | |
|
|