DIY ทำ Code Reader แบบบ้าน ๆ ที่แค่ปอกสายไฟเป็น ก็ทำเองได้ครับ

aids · 16-06-2012, 09:20:08 PM

DIY ทำ Code Reader แบบบ้าน ๆ ที่แค่ปอกสายไฟเป็น ก็ทำเองได้ครับ

สืบเนื่องจากกระทู้ ที่พี่สมชาย แนะนำเพื่อน ๆ ให้ใช้ Code Reader ในการวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์
ซึ่งถ้าเรารู้ว่า เครื่องมีปัญหาอะไร ก็จะได้นำไปสู่การแก้ไข ที่ตรงจุดครับ

ฝากถึงสมาขิกที่ใช้ E220 E280..
http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=52114

ต่อสายตามกระทู้ของพี่มานิตย์
DIY Code Reader
http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=16442

ผมได้อ่านแล้วก็ อยากมีไว้ใช้มากมาย
แต่กับความรู้งู ๆ ปลา ๆ เรื่องไฟของผม แม้กระทั่งการบักกรี ก็ฝีมือแย่ ๆ

สุดท้าย ก็ใช้ความพยายาม ทำออกมาจนสำเร็จ ทั้งที่กับบางท่าน มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ ครับ
ซึ่งก็มีเพื่อน ๆ หลายท่าน ที่รู้สึกเหมือนกับผมสมัยก่อน คือ

อยากได้ อยากมี Code Reader แต่ไม่รู้ว่าทำยังไง

จึงขออนุญาตนำเสนอ การ DIY แบบบ้าน ๆ ของผม ที่ฝีมือแค่พอใช้งานได้ครับ
แบบที่มีรูป โดยละเอียด ทุกขั้นตอน เพื่อที่เพื่อน ๆ จะทำตามได้ ง่าย ๆ ประเภทที่ว่า...

ถ้าปอกสายไฟเป็น ต้อง Do It Yourself ทำ Code Reader ใช้เองได้แน่ ๆ ครับ

aids · 16-06-2012, 09:34:57 PM

ก่อนอื่น ต้องหาซื้อ อุปกรณ์ที่จำเป็นก่อนครับ

1. ปลั๊กกล้วย 3 อัน ราคา 10 - 15 บาท/อัน

2. หลอดไฟ LED 12 V ผมเลือกใช้ หลอดไฟหรี่ธรรมดา
หาได้ง่ายตามร้านของแต่งรถทั่วไป ราคา 25 บาท

3. สวิทซ์กดเปิด ปล่อยปิด = 25 บาท

4. สายไฟฟรี เอามาจากที่เจ้า Music แทะ จนที่ชาร์จมือถือขาด

5. Cable tire เส้นละบาท

6. เทปพันสายไฟ ราคาไม่รู้แฮะ เพราะมีอยู่ที่บ้าน
ถ้าจะเอาสวยด้วย ก็ต้องมีท่อหดซะหน่อยครับ เมตรละ 10 บาท

7. สายไฟสีเหลือง อันนี้ไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่เพื่อความสวยงาม ใช้งานง่าย เมตรละ 10 บาท

aids · 16-06-2012, 09:37:40 PM

เริ่มเลยนะครับ

ตัดสายไฟ(ที่เจ้า Music แทะ) ออกมาซัก 40 ซ.ม. แบ่งออกเป็นสองส่วน

aids · 16-06-2012, 09:38:46 PM

ขั้นตอนนี้ยากที่สุด ปอกสายไฟครับ

aids · 16-06-2012, 09:40:44 PM

พับครึ่งสายไฟที่เราปอก เสียบไปในรู

aids · 16-06-2012, 09:50:09 PM

ขั้นตอนนี้สำคัญ ห้ามพลาดครับ

หาขั้ว+ ของหลอดLED ซึ่งถ้าเราสลับขั้ว จะทำให้ Code Reader ใช้งานไม่ได้ครับ

ผมได้ความรู้จากพี่สมชายว่า หลอดLED มี+ มี- ซึ่งถ้าเราสลับขั้ว หลอดจะไม่ติดครับ
ถ้าใครมี Volt Meter ก็คงตรวจได้

แต่ผมบอกไว้แล้วว่า จะใช้วิธีบ้าน ๆ จึงขอตรวจว่าขั้วไหน ขั้ว+ ด้วยวิธีนี้ครับ
เอาสายไฟ ไปแตะที่แบตรถเรา ฝั่งไหนไฟติด ก็ขั้วก็ตามที่แบตเตอร์รี่ครับ
เขียนเครื่องหมาย + ไว้ชัด ๆ จะได้ไม่พลาดครับ

aids · 16-06-2012, 09:52:50 PM

เอาขาหลอดLED ม้วนสายไฟไว้ แค่นี้ก็แน่นหนาแล้ว

aids · 16-06-2012, 09:55:41 PM

สายไฟเส้นที่อยู่ด้านขั่ว - ของหลอด ใช้ความยาวซัก 20 ซ.ม.

พับครึ่ง แล้วปอกสายไฟตรงกลาง ซักครึ่งเซนต์

aids · 16-06-2012, 09:59:15 PM

ตัดสายไฟสีเหลืองยาวประมาณ 20 ซ.ม.
ปอกสายไฟออก แบ่งเป็น 2 ส่วน พันตรงกลางของสายดำขั้ว - ให้แน่น

aids · 16-06-2012, 10:01:15 PM

อีกฝั่งที่ว่างอยู่ ก็่ต่อกับสวิทซ์ตามรูปครับ

aids · 16-06-2012, 10:05:36 PM

เสียบสายไฟเข้าปลั๊กกล้วย ที่จริงแค่นี้ก็ใช้งานได้แล้วครับ

สายจากขั้ว + หลอดLED ปลั๊กสีแดง
สายสีเหลืองตรงกลาง ก็ปลั๊กดำ (สีปลั๊กไม่สำคัญเท่าสีเหลืองของสายครับ)
สายสีดำจากสวิทซ์ ก็ปลั๊กดำ

aids · 16-06-2012, 10:06:32 PM

มาทำให้แข็งแรงกัน จะได้ใช้งานได้ยาว ๆ ทน ๆ

บักกรีที่สายไฟสีเหลือง ไม่ให้คลายออก

aids · 16-06-2012, 10:09:13 PM

ตัดปลายซักหน่อย เสียบท่อหดลงไป

จากนั้น ขอยืมไดร์เป่าผม ของคุณแม่ มาเป่าให้ร้อน ท่อก็หดครับ

ใครจะยืมจากแฟน จากภรรยา แม้กระทั่งจากกิ๊ก ก็ไม่ผิดกติกาครับ

aids · 16-06-2012, 10:17:53 PM

บักกรี่ปลายสายไฟ ให้ตะกั่วติดซักนิด อย่าลืมใส่ท่อหด ลงไปก่อนด้วยนะครับ

จากนั้น ก็เอามาต่อเข้ากับ ขาสวิทซ์ครับ
แฮะ ๆ ฝีมือบักกรี น่าเกลียดเหมือนเดิม

ป.ล. ใครไม่มีหัวแร้ง ไม่ต้องบักกรีก็ได้นะครับ
แค่สอดสายไฟเข้ารู มัดให้แน่ ๆ ใส่ท่อหดลงไปเลยครับ

ก็บอกแล้วว่า เราจะทำแบบบ้าน ๆ ตามที่เครื่องมือมี

aids · 16-06-2012, 10:20:17 PM

ที่จริงท่อหด เบอร์ 4 ที่ผมซื้อมา หลวมไปนิดครับ
ถ้าเป็นเบอร์ 3 น่าจะแน่นกว่านี้

aids · 16-06-2012, 10:23:12 PM

หยิบไปลอง Test ก่อน...

ฮ่า ๆ ใช้งานได้

สังเกตุดูไม่มีปลั๊กกล้วย ก็ใช้งานได้นะครับ
เผื่อใครขี้เกียจหา Bananaปลั๊ก

aids · 16-06-2012, 10:25:41 PM

มาใส่ ปลั๊กกล้วย กัน

ขั้ว + จากLED ใช้ปลั๊กสีแดงครับ

aids · 16-06-2012, 10:29:04 PM

ผมเคยเสียบเข้าไปตรง ๆ แบบรูปข้างบน ใช้ครั้งสองครั้ง มันหลุดออกง่าย

เลยสอดสายไฟ เข้าไปในรูตามนี้ จากนั้นม้วนไปเข้ารูตามปกติ ขันน๊อตให้แน่น
(อย่าตึงมือมาก ขันเอาเป็นเอาตายนะครับ เกลียวมันหวานง่าย)

aids · 16-06-2012, 10:30:47 PM

เอา Cable tire สีสวย ๆ ที่เราซื้อมา รัดให้แน่น ๆ ก็เรียบร้อยไปหนึ่ง

aids · 16-06-2012, 10:32:36 PM

อีกสองเส้น ก็ทำวิธีเดียวกันครับ

aids · 16-06-2012, 10:34:33 PM

พันเทป ที่ตูดหลอดLED ซักหน่อย

aids · 16-06-2012, 10:36:36 PM

พันเทปรอบสวิทซ์ รวมกับ หลอดLED ในต่ำแหน่งที่เราชอบ
ผมเลือกเอามาคู่กัน ใช้งานง่ายดี ไม่เกะกะครับ

aids · 16-06-2012, 10:38:53 PM

สอดกระดูงู เข้าทางด้านล่าง

รูดขึ้นบน เอากรรไกรมาตัดส่วนเกินออก

aids · 16-06-2012, 10:41:11 PM

เอา Cable tire รัดส่วนหัว

เอา Cable tire รัดส่วนล่างด้วย

aids · 16-06-2012, 10:42:46 PM

เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ง่ายมากเลยใช่ไหมครับ กับการ DIY แบบบ้าน ๆ ของผม

กับราคาไม่ถึงร้อยบาท

aids · 16-06-2012, 10:46:56 PM

เอามาลองใช้งานจริงกันครับ
การตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ เสียบตามนี้ครับ

สีแดง Pin 16
สีเหลือง Pin 8
สีดำ Pin 1

aids · 16-06-2012, 10:49:58 PM

บิดกุณแจ AC on

ลองกดปุ่มที่สวิทซ์ ไฟจะต้องติดตามรูปครับ

aids · 16-06-2012, 10:53:33 PM

ทดสอบการเสียบ Code Reader กับน้องพลอย ครั้งที่ 3

กดปุ่มค้างไว้ 3 วินาที ไฟจะติดระหว่างที่เรากด
พอปล่อยมือ ไฟก็จะเริ่มกระพริบ ให้เรานับ
กระพริบ ติด ดับ สลับกันไป เช่น ไฟติด 13 ครั้ง ก็คือ Error code 13
จะอ่าน Code ต่อไปก็กดอีก 3 วิ ไฟก็จะกระพริบ โค๊ดต่อไป วนไปเรื่อย ๆ จนกลับมาโค๊ดแรก

เลขยังเหลืออยู่.... 14, 15 , 16, 17, 18, 19

14 Injector, cylinder 1 (หัวฉีดสูบที่ 1)
15 Injector, cylinder 2 (หัวฉีดสูบที่ 2)
16 Injector, cylinder 3 (หัวฉีดสูบที่ 3)
17 Injector, cylinder 4 (หัวฉีดสูบที่ 4)
18 Injector, cylinder 5 (หัวฉีดสูบที่ 5)
19 Injector, cylinder 6 (หัวฉีดสูบที่ 6)

ไม่แปลกใจครับ ที่ขึ้นฟ้องหัวฉีดน้ำมัน ทั้ง 6 สูบ
เพราะผมใช้แก๊ส ต้องตัดสัญญาน หัวฉีดน้ำมันออกอยู่แล้ว
ไม่งั้นเราจะใช้แก๊สได้ยังไงล่ะครับ ถ้าไม่ตัดการจ่ายน้ำมันที่หัวฉีดน้ำมัน
สำหรับผม ถือว่า ปกติสำหรับน้องพลอย ครับ

ผมก็ไล่ลบ Code ต่าง ๆ ทีละตัว โดย...
หลังจากที่รายงานเสร็จ ก็กดปุ่มค้างไว้ 8 วินาที
แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ

เมื่อลบจนหมด ก็ตรวจอีกครั้ง ไฟจะกระพริบ 1 ครั้ง แปลว่าปกติ

หวังว่า น่าจะ Do It Yourself ทำใช้ได้ทุกท่าน นะครับ
มีข้อสงสัยอะไร หรือพี่ ๆ เพือน ๆ ท่านไหนมีข้อแนะนำ ติชมอย่างไร
เรียนเชิญเลยนะครับ อยากให้เพื่อน ๆ มี Code Reader ไว้ใช้งานกันครับ

aids · 16-06-2012, 10:56:13 PM

สำหรับ Code อื่น ๆ โดยละเอียด Download ที่นี่ครับ

http://www.w124performance.com/docs/...998_CS1000.pdf

หรือไม่ก็ Download จากที่คุณ Peace_Keeper แนะนำไว้เลยครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ

อ้างถึง:

Originally Posted by Peace_Keeper

ผมเปิด manual ไฟล์ pdf ไม่ได้ จึงไปค้นหาเอง ได้แล้ว ขอแชร์ไว้ที่นี้ครับ

http://www.mbslk.com/files/artikel/r170_fehlercodes.pdf

pppcguy · 16-06-2012, 11:16:16 PM

มีงานให้ทำแก้เหงาละ

16-06-2012, 09:20:08 PM	#1
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	DIY ทำ Code Reader แบบบ้าน ๆ ที่แค่ปอกสายไฟเป็น ก็ทำเองได้ครับ DIY ทำ Code Reader แบบบ้าน ๆ ที่แค่ปอกสายไฟเป็น ก็ทำเองได้ครับ สืบเนื่องจากกระทู้ ที่พี่สมชาย แนะนำเพื่อน ๆ ให้ใช้ Code Reader ในการวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ ซึ่งถ้าเรารู้ว่า เครื่องมีปัญหาอะไร ก็จะได้นำไปสู่การแก้ไข ที่ตรงจุดครับ ฝากถึงสมาขิกที่ใช้ E220 E280.. http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=52114 ต่อสายตามกระทู้ของพี่มานิตย์ DIY Code Reader http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=16442 ผมได้อ่านแล้วก็ อยากมีไว้ใช้มากมาย แต่กับความรู้งู ๆ ปลา ๆ เรื่องไฟของผม แม้กระทั่งการบักกรี ก็ฝีมือแย่ ๆ สุดท้าย ก็ใช้ความพยายาม ทำออกมาจนสำเร็จ ทั้งที่กับบางท่าน มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ ครับ ซึ่งก็มีเพื่อน ๆ หลายท่าน ที่รู้สึกเหมือนกับผมสมัยก่อน คือ อยากได้ อยากมี Code Reader แต่ไม่รู้ว่าทำยังไง จึงขออนุญาตนำเสนอ การ DIY แบบบ้าน ๆ ของผม ที่ฝีมือแค่พอใช้งานได้ครับ แบบที่มีรูป โดยละเอียด ทุกขั้นตอน เพื่อที่เพื่อน ๆ จะทำตามได้ ง่าย ๆ ประเภทที่ว่า... ถ้าปอกสายไฟเป็น ต้อง Do It Yourself ทำ Code Reader ใช้เองได้แน่ ๆ ครับ Last edited by aids; 17-06-2012 at 07:59:39 AM.

16-06-2012, 10:09:13 PM	#13
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ตัดปลายซักหน่อย เสียบท่อหดลงไป จากนั้น ขอยืมไดร์เป่าผม ของคุณแม่ มาเป่าให้ร้อน ท่อก็หดครับ ใครจะยืมจากแฟน จากภรรยา แม้กระทั่งจากกิ๊ก ก็ไม่ผิดกติกาครับ Last edited by aids; 16-06-2012 at 10:12:31 PM.

16-06-2012, 10:17:53 PM	#14
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	บักกรี่ปลายสายไฟ ให้ตะกั่วติดซักนิด อย่าลืมใส่ท่อหด ลงไปก่อนด้วยนะครับ จากนั้น ก็เอามาต่อเข้ากับ ขาสวิทซ์ครับ แฮะ ๆ ฝีมือบักกรี น่าเกลียดเหมือนเดิม ป.ล. ใครไม่มีหัวแร้ง ไม่ต้องบักกรีก็ได้นะครับ แค่สอดสายไฟเข้ารู มัดให้แน่ ๆ ใส่ท่อหดลงไปเลยครับ ก็บอกแล้วว่า เราจะทำแบบบ้าน ๆ ตามที่เครื่องมือมี Last edited by aids; 16-06-2012 at 11:00:46 PM.

16-06-2012, 10:30:47 PM	#19
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เอา Cable tire สีสวย ๆ ที่เราซื้อมา รัดให้แน่น ๆ ก็เรียบร้อยไปหนึ่ง Last edited by aids; 17-06-2012 at 08:03:29 AM.

16-06-2012, 10:42:46 PM	#25
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ง่ายมากเลยใช่ไหมครับ กับการ DIY แบบบ้าน ๆ ของผม กับราคาไม่ถึงร้อยบาท Last edited by aids; 22-06-2012 at 01:31:38 PM.

16-06-2012, 09:34:57 PM	#2
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ก่อนอื่น ต้องหาซื้อ อุปกรณ์ที่จำเป็นก่อนครับ 1. ปลั๊กกล้วย 3 อัน ราคา 10 - 15 บาท/อัน 2. หลอดไฟ LED 12 V ผมเลือกใช้ หลอดไฟหรี่ธรรมดา หาได้ง่ายตามร้านของแต่งรถทั่วไป ราคา 25 บาท 3. สวิทซ์กดเปิด ปล่อยปิด = 25 บาท 4. สายไฟฟรี เอามาจากที่เจ้า Music แทะ จนที่ชาร์จมือถือขาด 5. Cable tire เส้นละบาท 6. เทปพันสายไฟ ราคาไม่รู้แฮะ เพราะมีอยู่ที่บ้าน ถ้าจะเอาสวยด้วย ก็ต้องมีท่อหดซะหน่อยครับ เมตรละ 10 บาท 7. สายไฟสีเหลือง อันนี้ไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่เพื่อความสวยงาม ใช้งานง่าย เมตรละ 10 บาท

16-06-2012, 09:37:40 PM	#3
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เริ่มเลยนะครับ ตัดสายไฟ(ที่เจ้า Music แทะ) ออกมาซัก 40 ซ.ม. แบ่งออกเป็นสองส่วน

16-06-2012, 09:38:46 PM	#4
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ขั้นตอนนี้ยากที่สุด ปอกสายไฟครับ

16-06-2012, 09:40:44 PM	#5
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	พับครึ่งสายไฟที่เราปอก เสียบไปในรู

16-06-2012, 09:50:09 PM	#6
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ขั้นตอนนี้สำคัญ ห้ามพลาดครับ หาขั้ว+ ของหลอดLED ซึ่งถ้าเราสลับขั้ว จะทำให้ Code Reader ใช้งานไม่ได้ครับ ผมได้ความรู้จากพี่สมชายว่า หลอดLED มี+ มี- ซึ่งถ้าเราสลับขั้ว หลอดจะไม่ติดครับ ถ้าใครมี Volt Meter ก็คงตรวจได้ แต่ผมบอกไว้แล้วว่า จะใช้วิธีบ้าน ๆ จึงขอตรวจว่าขั้วไหน ขั้ว+ ด้วยวิธีนี้ครับ เอาสายไฟ ไปแตะที่แบตรถเรา ฝั่งไหนไฟติด ก็ขั้วก็ตามที่แบตเตอร์รี่ครับ เขียนเครื่องหมาย + ไว้ชัด ๆ จะได้ไม่พลาดครับ

16-06-2012, 09:52:50 PM	#7
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เอาขาหลอดLED ม้วนสายไฟไว้ แค่นี้ก็แน่นหนาแล้ว

16-06-2012, 09:55:41 PM	#8
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	สายไฟเส้นที่อยู่ด้านขั่ว - ของหลอด ใช้ความยาวซัก 20 ซ.ม. พับครึ่ง แล้วปอกสายไฟตรงกลาง ซักครึ่งเซนต์

16-06-2012, 09:59:15 PM	#9
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ตัดสายไฟสีเหลืองยาวประมาณ 20 ซ.ม. ปอกสายไฟออก แบ่งเป็น 2 ส่วน พันตรงกลางของสายดำขั้ว - ให้แน่น

16-06-2012, 10:01:15 PM	#10
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	อีกฝั่งที่ว่างอยู่ ก็่ต่อกับสวิทซ์ตามรูปครับ

16-06-2012, 10:05:36 PM	#11
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เสียบสายไฟเข้าปลั๊กกล้วย ที่จริงแค่นี้ก็ใช้งานได้แล้วครับ สายจากขั้ว + หลอดLED ปลั๊กสีแดง สายสีเหลืองตรงกลาง ก็ปลั๊กดำ (สีปลั๊กไม่สำคัญเท่าสีเหลืองของสายครับ) สายสีดำจากสวิทซ์ ก็ปลั๊กดำ

16-06-2012, 10:06:32 PM	#12
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	มาทำให้แข็งแรงกัน จะได้ใช้งานได้ยาว ๆ ทน ๆ บักกรีที่สายไฟสีเหลือง ไม่ให้คลายออก

16-06-2012, 10:20:17 PM	#15
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ที่จริงท่อหด เบอร์ 4 ที่ผมซื้อมา หลวมไปนิดครับ ถ้าเป็นเบอร์ 3 น่าจะแน่นกว่านี้

16-06-2012, 10:23:12 PM	#16
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	หยิบไปลอง Test ก่อน... ฮ่า ๆ ใช้งานได้ สังเกตุดูไม่มีปลั๊กกล้วย ก็ใช้งานได้นะครับ เผื่อใครขี้เกียจหา Bananaปลั๊ก

16-06-2012, 10:25:41 PM	#17
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	มาใส่ ปลั๊กกล้วย กัน ขั้ว + จากLED ใช้ปลั๊กสีแดงครับ

16-06-2012, 10:29:04 PM	#18
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ผมเคยเสียบเข้าไปตรง ๆ แบบรูปข้างบน ใช้ครั้งสองครั้ง มันหลุดออกง่าย เลยสอดสายไฟ เข้าไปในรูตามนี้ จากนั้นม้วนไปเข้ารูตามปกติ ขันน๊อตให้แน่น (อย่าตึงมือมาก ขันเอาเป็นเอาตายนะครับ เกลียวมันหวานง่าย)

16-06-2012, 10:32:36 PM	#20
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	อีกสองเส้น ก็ทำวิธีเดียวกันครับ

16-06-2012, 10:34:33 PM	#21
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	พันเทป ที่ตูดหลอดLED ซักหน่อย

16-06-2012, 10:36:36 PM	#22
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	พันเทปรอบสวิทซ์ รวมกับ หลอดLED ในต่ำแหน่งที่เราชอบ ผมเลือกเอามาคู่กัน ใช้งานง่ายดี ไม่เกะกะครับ

16-06-2012, 10:38:53 PM	#23
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	สอดกระดูงู เข้าทางด้านล่าง รูดขึ้นบน เอากรรไกรมาตัดส่วนเกินออก

16-06-2012, 10:41:11 PM	#24
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เอา Cable tire รัดส่วนหัว เอา Cable tire รัดส่วนล่างด้วย

16-06-2012, 10:46:56 PM	#26
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	เอามาลองใช้งานจริงกันครับ การตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ เสียบตามนี้ครับ สีแดง Pin 16 สีเหลือง Pin 8 สีดำ Pin 1 Last edited by aids; 22-06-2012 at 01:32:18 PM.

16-06-2012, 10:49:58 PM	#27
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	บิดกุณแจ AC on ลองกดปุ่มที่สวิทซ์ ไฟจะต้องติดตามรูปครับ

16-06-2012, 10:53:33 PM	#28
aids Join Date: Mar 2012 Location: มีน้องพลอยสาว18คู่กาย(E280) เธอเฉิดฉายอยู่แถววัดเสมียน Posts: 2,963 Thanks: 6,842 Thanked 8,757 Times in 2,012 Posts	ทดสอบการเสียบ Code Reader กับน้องพลอย ครั้งที่ 3 กดปุ่มค้างไว้ 3 วินาที ไฟจะติดระหว่างที่เรากด พอปล่อยมือ ไฟก็จะเริ่มกระพริบ ให้เรานับ กระพริบ ติด ดับ สลับกันไป เช่น ไฟติด 13 ครั้ง ก็คือ Error code 13 จะอ่าน Code ต่อไปก็กดอีก 3 วิ ไฟก็จะกระพริบ โค๊ดต่อไป วนไปเรื่อย ๆ จนกลับมาโค๊ดแรก เลขยังเหลืออยู่.... 14, 15 , 16, 17, 18, 19 14 Injector, cylinder 1 (หัวฉีดสูบที่ 1) 15 Injector, cylinder 2 (หัวฉีดสูบที่ 2) 16 Injector, cylinder 3 (หัวฉีดสูบที่ 3) 17 Injector, cylinder 4 (หัวฉีดสูบที่ 4) 18 Injector, cylinder 5 (หัวฉีดสูบที่ 5) 19 Injector, cylinder 6 (หัวฉีดสูบที่ 6) ไม่แปลกใจครับ ที่ขึ้นฟ้องหัวฉีดน้ำมัน ทั้ง 6 สูบ เพราะผมใช้แก๊ส ต้องตัดสัญญาน หัวฉีดน้ำมันออกอยู่แล้ว ไม่งั้นเราจะใช้แก๊สได้ยังไงล่ะครับ ถ้าไม่ตัดการจ่ายน้ำมันที่หัวฉีดน้ำมัน สำหรับผม ถือว่า ปกติสำหรับน้องพลอย ครับ ผมก็ไล่ลบ Code ต่าง ๆ ทีละตัว โดย... หลังจากที่รายงานเสร็จ ก็กดปุ่มค้างไว้ 8 วินาที แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ เมื่อลบจนหมด ก็ตรวจอีกครั้ง ไฟจะกระพริบ 1 ครั้ง แปลว่าปกติ หวังว่า น่าจะ Do It Yourself ทำใช้ได้ทุกท่าน นะครับ มีข้อสงสัยอะไร หรือพี่ ๆ เพือน ๆ ท่านไหนมีข้อแนะนำ ติชมอย่างไร เรียนเชิญเลยนะครับ อยากให้เพื่อน ๆ มี Code Reader ไว้ใช้งานกันครับ

16-06-2012, 11:16:16 PM	#30
pppcguy Join Date: Feb 2008 Posts: 1,732 Thanks: 146 Thanked 664 Times in 295 Posts	มีงานให้ทำแก้เหงาละ

Thread Tools	Search this Thread
Show Printable Version Email this Page	Search this Thread: Advanced Search
Display Modes
Linear Mode Switch to Hybrid Mode Switch to Threaded Mode