![]() |
![]() |
|
![]() |
|
Thread Tools | Search this Thread | Display Modes |
![]() |
#61 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#62 |
Join Date: Mar 2011
Posts: 273
Thanks: 176
Thanked 370 Times in 105 Posts
|
![]()
เห็นรถพี่สีดำโฉมสุดท้ายแล้วรักเลยครับ สวยจริงอะไรจริง อยากได้มาก ๆ แต่พี่คงไม่ขาย ถ้าขายเมื่อไหร่ช่วยแจ้งผมด้วยนะครับ 555+
ขอบคุณที่อุตส่าห์มาโพสความรู้ให้อย่างต่อเนื่องนะคร ับ เพราะ 124 หลายท่านก็อาจอยากขยับ หรือขยับไปแล้ว หรือมีทั้งสองรุ่นนี้ ครับ เป็นประโยชน์ครับ |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#63 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
ดูตามเวบประกาศขายรถก่อนก็ได้ครับ ปลาวาฬ ME ถึงแม้จะหายากแต่พักหลังก็เริ่มมีให้เห็นบ้างครับ ถ้าได้สภาพดีๆ เนี๊ยบๆเท่าไหร่ก็ต้องซื้อ เพื่อนให้หาปลาวาฬ S500ME อยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีเข้ามาเลยครับ ปล.รถผมคนชอบมองเป็นสีดำ แต่จริงๆในคู่บอกเป็นสี emerald green black ออกดำอมเขียวมรกต สวยแปลกตาเหมือนกัน ![]() ![]() |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#64 |
Join Date: Mar 2011
Posts: 273
Thanks: 176
Thanked 370 Times in 105 Posts
|
![]()
มองไม่ออกจริง ๆ ครับ สีอะไรแน่ ดำของเบนซ์รุ่นเก่า ๆ มี 3-4 สี ถ้าดูตาม VIN code สีดำสนิทรู้สึกว่าจะต้องเป็น obsidian black รหัส 400 มั้งครับ ไม่แน่ใจ จะดำรหัสไหนก็สวยทุกสีครับ (แต่ผมยังอยากได้รถพี่จริง ๆ นะ) 555+
|
![]() |
![]() |
![]() |
#65 |
Join Date: Oct 2010
Location: meenburi-nong-chock
Posts: 1,013
Thanks: 765
Thanked 476 Times in 249 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#66 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
สีดำนี่น่าเล่นครับ สวย ทำสีก็ไม่ยากเหมือนสีบรอนส์ทอง/บรอนส์เงิน ซึ่งสองสีนี้ปราบเซียนเลยครับ ทำออกมาถ้าช่างไม่ชำนาญจริงๆ หรือไม่เคยผ่านงานเบนซ์มาก่อนมักจะออกมาเพี้ยนๆ ปล. เรื่องรถนี้เด๋วนี้รถสวยๆเยอะครับ อดใจรอหน่อย เด๋วก็จะมีช้างเผือกก็โผล่มาทีละตัวๆให้ยลโฉมกันครับ ![]() ![]() ![]() |
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#67 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#68 |
Join Date: Oct 2010
Location: meenburi-nong-chock
Posts: 1,013
Thanks: 765
Thanked 476 Times in 249 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#69 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#70 |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#71 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
ตั้งแต่เกือบ 5 ปีที่แล้ว(ตอนพิ่งเรียนจบใหม่ๆ) และใช้ยาวมาจนถึงทุกวันนี้ เลยไม่ไมได้ถ่ายไว้ ทุกขั้นตอน แต่พอดีผมมีปั้มประตูดูด 2 อัน เลยกะรื้อออกมาเพื่อภาพขั้นตอน DIY ดังกล่าวไว้ เพื่อมาลงเวบโดยเฉพาะ เพราะผมมองว่ามีประโยชน์ แก้ไขจุดอ่อนของปั้มให้ใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงวิธีเชคหาจุดรั่วแบบง่ายๆ เรื่องถอดแผงประตูไว้ผมจะหาภาพจากเวบอื่นๆมาให้ชมครั บพี่ ![]() ![]() |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#72 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
สำหรับพี่ nusorn ครับ วิธีถอดแผงประตูหลังแบบละเอียดๆครับ เพิ่งไปเจอมา ตามลิงค์เลยครับ
part 1 : http://www.benzworld.org/forums/w140...ator-part.html part 2 : http://www.benzworld.org/forums/w140...ator-part.html |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#73 |
Join Date: Oct 2010
Location: meenburi-nong-chock
Posts: 1,013
Thanks: 765
Thanked 476 Times in 249 Posts
|
![]() อ้างถึง:
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#74 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#75 |
Join Date: Mar 2009
Location: แถวเซ็นทรัลบางนา
Posts: 981
Thanks: 54
Thanked 81 Times in 44 Posts
|
![]()
มอเตอร์ปั๊มประตูดูด ถ้าเสียจะหาซื้อมอเตอร์จากแหล่งใดครับ
|
![]() |
![]() |
![]() |
#76 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#77 |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]() อ้างถึง:
จริงอย่างท่านว่า ถ้าเย็นไปกินน้ำมันมากกว่า สงสัยต้องเปลี่ยนแล้ว ซื้อวาวล์ 87 มาเตรียมไว้นานแล้ว แต่ยุ่ง ๆ ก็เลยผ่านไปก่อน แต่พอกลับมาอ่านของท่านแล้ว เห็นประดยชน์ของมัยจริง ๆ ว่าแต่ถ้าใช้อะไรแซะหรือเจียร์ เห็นรอยอยู่แถวรอยต่อเสื้อวาวล์น้ำ เพราะทุกคันเวลาใช้ไปนาน ๆ เปิดไม่ออก อ่านพบท่านนึงบอกใช้เหล็กงัด ผมคิดว่าต้องมีวิธีอื่นซิน่า อย่าลืมว่าตัวเป็นอลูมิเนียม งัดไปอาจพลาดทำให้ปากท่อร้าวได้ ขอลองวิธีของท่านดูบ้าง |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#78 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
แต่ถ้ามันติดจริงๆ ผมเคยเห็นบางท่านใช้เหล็กงัด บ้างก็ใช้ค้อนยางเคาะไปรอบๆ ลองดูนะครับ ![]() ![]() |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#79 |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]()
สำหรับคนDIYเอง หากเห็นยางโอริง ก็วางให้นั่งตำแหน่งถูกต้อง ไม่ต้องพึ่งกาวปะเก็น
คันผเจ้าของเดิมเข้าอู่ประจำ 2 แป่ง(ดูจากบิล) ทุกเรื่องตั้งแต่ใหญ่ยันเล็กน้อย นี่เป็น ตย.ที่แสดงถึงskill หรือกลัวลูกค้ากลับมาต่อว่า หากมีCoolantซึม ? ถ้าเป็นนักDIY เราก็ถอดออกมาวางโอริงใหม่ก็เท่านั้น ตอนนี้เห็นแนวทางแล้ว ต้องใช้เกียงค่อย ๆ แทรกตามรอยต่อ แต่ฝั่งฝาสูบแคบมาก ขวาก็ติดเซ็นเซอร์ 2 ตัว แซะได้แค่ฝั่งพัดลม มิน่าเล่าเห็นรีวิวที่เปลี่ยนปั้มน้ำ ก็เปลี่ยนทั้งวาวล์และเสื้อวาวล์น้ำไปด้วย หรือว่าผมทำแบบท่านบ้าง เพราะมองดูปั้ใน้ำ ก็ไม่น่าถอดยาก ไม่ต้องถอดพัดลมฟรีปั้ม? รบกวนถามเรื่องอะไหล่นิดนึง ตอนซื้อปั้มน้ำ มีเสื้อวาล์น้ำมาในชุด หรือต้องซื้อแยกครับ? |
![]() |
![]() |
![]() |
#80 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
ตอนนั้นปั้มน้ำผมเปลี่ยนที่อู่ครับเมื่อปีกว่า ยังไม่กล้าเปลี่ยนเอง รู้สึกไม่ได้มีเสื่อวาล์วติดมาด้วยครับ เรื่องถอดนี้ผมไม่เคยทำมาก่อนเลยไม่กล้าแนะนำ ผมว่า nusorn ลองไล่ดูจากกระทู้เก่าๆ หรือไม่ ให้อู่ทำดีกว่าครับ ชัวร์กว่า Last edited by LeMans24; 08-02-2015 at 04:58:56 PM. |
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#81 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
วันนี้พอจะมีเวลามาอัพเดทกระทู้ Episode ใหม่เป็นจริงเป็นจังซะที หลังจากที่เกริ่นไปนาน
![]() ![]() ระบบ soft close หรือ closing assist system หรือที่บ้านเราเรียกว่าระบบประตูดูดนั้นจะถูก ติดตั้งอยู่ 5 ตำแหน่งในรุ่น sedan ครับ ประตูทั้งสี่ประตูและกระโปรงท้าย....... ส่วนตัว coupe หรือนั้นก็แค่ตัดประตูหลังออกก็เป็นสามตำแหน่ง คือประตูสองบาน และประโปรงท้าย ......ระบบนี้จะทำงานโดยมี Closing Assist Supply Pump เป็นอุปกรณ์หลักติดตั้งอยู่มุมบนซ้าย ในฝากระโปรงหลัง ซึ่งจะคอยสร้างแรงดัน(และแรงดูด) ในการปิดประตู... และจะมี microswitch ที่คอยจับสัญญาณ(การปิดประตู) อยู่ตรงชุดกลอนประตูของแต่ละบานครับ เพื่อให้ปั้มทำงาน และนอกจากนั้นจะมีวาล์วลม หรือ closing assist actuator อีกตัวที่จะเป็นตัวดึงประตูให้เข้ากลอน (latch) ด้วยแรงดันที่ส่งมาจากปั้ม CA ครับ.... หลังจากดึงประตูเข้ากลอนแล้วปั้มก็จะสร้างแรงดูด หรือ vaccum อีกทีนึงเป็นการคลายให้ตัววาล์วลม CAA กลับเข้าที่ตำแหน่งเดิมและเพื่อให้แน่ในใจ ว่าไม่มีรั่วในระบบ.... .......ดังนั้นในการปิดประตูแต่ละครั้ง ปั้มจะทำงานสองจังหวะ คือสร้าง แรงดันหรือ pressure ก่อน เพื่อดึงประตูให้เข้ากลอน แล้วจึงสร้างแรงดูดหรือ vaccum เพื่อคลายอุปกรณ์ให้เข้าที่และเพื่อให้ connector ตามจุดต่างๆแนบสนิทกันเพื่อไม่ได้เกิดรอยรั่วครับ ........ แต่หากสังเกตุจากภายนอกเราจะเห็นว่าระบบทำงานเป็น 3 จังหวะคือ ดูดประตูกลอนเข้าซึ่ง ใช้เวลาประมาณ 3 - 8 วินาทีโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับสภาพปั้มและระบบโดยรวม (ตรงนี้สำคัญมาก) จากนั้นจะคลายออก และปิดท้ายการสร้าง vaccum เพื่อคลายอุปกรณ์ต่างๆให้เข้าที่สู่ตำแหน่งเดิม เพื่อรอการทำงานครั้งต่อไป..... .......อันนี้เป็นหลักการทำงานอย่างคร่าวๆครับ ซึ่งต่อจากนี้ไปผมจะลงลึกในรายละเอียดถึงการทำ งานในบางจุดที่สำคัญๆ รวมถึงวิเคราะห์แก้ปัญหาเบื้องต้น และตบท้ายด้วยการModifyให้ปั้มทำงาน เบาลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนา นยิ่งขึ้นครับ..... ปล.การโมฯปั้มครั้งนี้ผมทำเมื่อ 5 ปีที่แล้วสมัยเรียนจบใหม่ๆ และยังใช้งานมาถึงปัจจุบันแบบไม่ เคยมีปัญหาครับ รูปที่ถ่ายครั้งนี้เป้นแค่การรื้อปั้้มสำรองมาแกะดูเ พื่อเป็นภาพประกอบเท่านั้นครับ ภาพประกอบเป็นภาพตำแหน่งติดตั้ง/ตัวปั้ม /วาล์ว CAAและกลอนประตูครับ ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#82 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
W140 Closing Assist Supply Pump
![]() ![]() ตัวอักษรย่อตรงช่องลมเป็นภาษาเยอรมันครับ พอจะเป็นสรุปเป็นภาษาอังกฤษได้ดังนี้ VL = Left Front VR = Right Front HD = Trunk Lid HL = Left Rear HR = Rigth Rear SK = Intake Air ปั้มนี้ค่อนข้างแพงเอาเรื่องครับ ของใหม่เคยเชคร้านแถววัดโสม 35,000 เบิกศูนย์ 4 หมื่นกว่า แต่โชคดีเด๋วนี้ช่างเก่งๆ เยอะ เอาปั้มเก่ามาซ่อมได้ ของเก่าที่เคยเจอมีตั้งแต่ 3 - 8 พันบาท อันนี้เฉพาะค่าปั้ม เหลืออุปกรณ์อย่างอื่นอีกเล่น ท่อแวคคั่ม วาล์วลมประตู ไมโครสวิทช์ ฯลฯ ราคาค่าตัวก็ไม่น่าจะถูก สมควรที่เราคนรักปลาวาฬจะศึกษาและใช้งานอย่างถนุถนอม เพราะ เป็นระบบที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับรถรุ่นนี้ไปแล้วก็ว่า ได้ .... ..... บางท่านถามว่าถ้ามันเสียก็ตัดระบบไปเลย ไม่ต้องใช้ระบบดูดเลยจะได้ไหม?? ตอบ ได้ครับ ก็ปิดแบบแมนวลไป แต่....... ส่วนตัวผมมองว่ามีปัญหาอยู่ 2 ประเด็น 1. รถรุ่น w140 นั้นยางขอบประตูนั้นถูกออกแบบมาให้หนากว่ารถธรรมดาตั วไป เพื่อป้องกันเสียง ลม/เสียงรบกวน บางคันที่สภาพดีๆ ยางยังใหม่ๆ ถ้าปิดแบบแมนวลจะต้องออกแรงเยอะ คือต้องปิด แรงมากๆ สะเทือนเลยครับ โดยเฉพาะประตูหน้า ซึ่งส่วนตัวผมมองแล้วรู้สึกว่ามันผิดธรรมชาติและ รู้ว่าเสียรถไปเลยครับ กระแทกแรงบางครั้งรู้สึกสะเทือนถึงอุปกรณ์ในแผงประตู .... นอกเสียจากว่า รถท่านนั้นสภาพเยินมากแล้ว ยางขอบประตูเสียรูปหมดแล้วก็จะปิดง่ายหน่อยครับ ข้อควรระวัง สำหรับคันที่ยังสภาพดีอยู่และยังอยากใช้ระบบดูดอยู่ การปิดกระแทกแบบแมนวล บ่อยๆ อาจทำให้ไมโครสวิทช์ตรงกลอนประตูเสียหายได้ ฉนั้นเสียก็รีบจัดการซ่อมจะดีที่สุด 2. การปิดฝากระโปรงท้ายจะยากขึ้นเป็นกองครับ เพราะถ้าปิดแบบแมนวลธรรมดาๆ แต่ไม่ดูดเข้า มันจะแค่ล๊อคได้ แต่จะเผยอๆหน่อย กระโปรงจะไม่แนบสนิทกับตัวรถ ..... แต่ถ้าจะให้แนบกับตัว รถ สำหรับในรุ่น ME จะมีการปรับกลอนเพื่อให้ปิดแบบแมนวลก่อน แล้วจึงปิดกระแทก ซึ่งตรงนี้ ขอบอกว่า... ต้องออกแรงมากกว่าหลายเท่าครับ แรงกว่าปิดประตูมากพอสมควร แต่ในรุ่นปี 95 ลงมาผมไม่แน่ใจ แต่รู้สึกจะต้องทำเหมือนๆกัน.... โดยต้องแหย่นิ้วเข้าไปโยกสวิทช์ที่อยู่ด้านในฝา กระโปรง (ซึ่งอยู่ตรงชุดกลอนเลยครับ จะมีรูอยู่) ดันจึงดันกลอนเข้าไปหนึ่งสเต็ปจนเข้าล๊อค แล้ว จึงค่อยปิดแบบกระแทก ฟังดูยุ่งยากหน่อย แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆครับ ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงจึงทำให้ผมต้องการรักษาระบ บอันเป็นเอกลักษณ์นี้ไว้ให้อยู่คู่ กับรถตลอดไปครับ ![]() ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : | aids, Amorntheptom, areem, digoro, dpkn, lyongyuth, prathet, puarnold-_-, Resta, SUWIT_E280, thongz, ืnusorn |
![]() |
#83 |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]()
ที่นี้ก็มาถึงการวิเคราะห์ปัญหาครับ หลักสำคัญต้องลองสงเกตุอาการ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นระบบประตู
ดูดหรือ soft closeในw140 นั้นมีตั้งแต่ระดับ อ่อน กลาง และรุนแรง ดูๆไปก็คล้ายๆคนเป็นโรค มะเร็งล่ะครับ คือถ้าตรวจเจอตั้งแต่เนิ่นๆ ก็มีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้ง่ายด้วยงบประมาณที่ ต่ำกว่า หรือเจอในระยะกลางหรือรุนแรงงบประมาณก็จะสูงตามลำดับ เพราะอาจจจะมีอุปกรณ์ใน ระบบเสียหายเยอะ.... ....จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ถ้าสามารถสามารถระบุปัญหาได้ว่ามาจาก"ตัวปั้ม"หรือ"ส ่วนที่ เหลือ"ซึ่งก็ประกอบด้วยสายแวคคั่ม/วาล์วลมCAA/microswitch ก็จะเป็นการดีมากครับเพราะ จะช่วยให้เรา scope ปัญหาให้แคบลง แต่ผมจะขอบอกไว้ก่อนตรงนี้เลยว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ ในบ้านเรานั้นเกิดมาจากตัวปั้มประมาณ70-80% นอกนั้นก็จะเป็นที่วาล์วลมCAA สายแวคคั่มรั่ว และ microswitch ตามลำดับ แล้วเราจะวิเคราะห์หาต้นตอของปัญหาได้อย่างไร ?? ....อาการเริ่มแรกที่เรามักจะเจอกันส่วนใหญ่จะเป็นอา การประตูไม่ดูด อาจจะเริ่มไม่ดูดทีละบาน แล้วค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้เรามักแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุ โดยการ reset ฟิวส์เบอร์ 9 ในกระโปรงท้าย โดยการถอดออกมาแล้วเสียบเข้าไปใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะกลับมาใช้ได้ อีกระยะนึง แต่แล้วไม่นานปั้มจะเริ่มตัดการทำงานอีก หากทำแบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ไปแก้ที่ ต้นของปญหา อาจจะทำให้ให้ปั้มไหม้ได้ในไม่ช้า ทั้งๆปัญหาไม่ได้มาจากปั้มเลยก็ได้ !! แต่.... จริงๆแล้วอาการเสียนั้นมันมีลางบอกเหตุมาก่อนหน้านี้ แล้วหล่ะครับ แต่เราไม่เคย สังเกตุเอง นั่นก็คือ จำนวนวินาทีในการดึงประตูเข้ากลอน หรือระยะเวลาในการ"ดูด"แล้ว คลายนั่นเอง นี่คือสัญญาณบอกเหตุเบื้องต้นที่แท้จริงที่เราควรหมั ่นสังเกตุ เพราะจะได้แก้ ไขได้ทันเวลาไงล่ะครับ ![]() ![]() to be continued ..... ![]() ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#84 | |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]() อ้างถึง:
http://www.benzowner.net/forum/showt...683#post839683 ยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งที่ท่านลงภาพประกอบไว้ ทำให้คิดต่อยอดได้โดยง่าย ทดลองใช้ 2 วันแล้ว ไม่มีจุดรั่วซึม อยากเน้นกับเพื่อน ๆ ว่า หากจุดใดที่เชื่อมด้วยโอริง อย่าขันแน่นเกินไป ผมใช้แค่ 10-12NM ทุกจุด แม้แต่NOZZLE ของหัวฉีดแก็สด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#85 | |
Join Date: Jun 2013
Location: Bangkok, Thailand
Posts: 430
Thanks: 250
Thanked 1,088 Times in 332 Posts
|
![]() อ้างถึง:
![]() ![]() เปลี่ยนเป็นวาล์ว 87 แล้วเปงไงมั่งครับ เข็มอุณหภูมิ/เครื่องยนต์/อัตราการบริโภค ?? |
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#86 | |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]() อ้างถึง:
**ผมขอชี้แจงเพิ่มนิดดีกว่า เห็นท่านใช้คำว่า "งัด" เกรงว่าท่าน สมช ท่านอื่นที่จะDIYตามผม จะปฏิบัติผิด...จะเกิดความเสียหายได้ ***ที่หน้างานผมใช้ปากของคีมคอม้าแค่จับประคอง ไม่ได้ออกแรงบีบเลย และตบเบา ๆ ที่ด้ามก็เปิดออกอย่างง่ายดาย พระเอกน่าจะเป็นน้ำยากัดกาว กัดโอริงเก่าที่ผมฉีดทิ้งไว้หลายชั่วโมง เพราะปีก่อนผมพยายามไปรอบนึง ไม่ได้ฉีดเข้าไปข้างใน เหมือนกับว่าโอริงมันละลายยึดติดกับฝากเลยเปิดไม่ออก ใช้ฆ้อนยางเคาะรอบ ๆ ก็ไม่ขยับเลย เอาล่ะ...มาตอบคำถามท่านดีกว่า ข้อแรก "เข็มTemp" ![]() ผมเพิ่งขับได้ 2 วันเอง รูปนี้ถ่ายวันแรกตอนรถติดราวครึ่ง ชม. ขยับได้ทีละคืบ **ข้อ 2. เครื่องยนต์? ตรงนี้ไม่รู้จะชี้ชัดว่าแตกต่างได้หรือไม่ พอดีได้เปลี่ยน IAT ใหม่ในวันเดียวกัน รู้สึกไปเองหรือป่าวไม่รุ "แต่เสียงเบาลง" เหมือนเครื่องเดินเรียบขึ้น เร่งสนุกเลย อาจเพราะผมขับน้ำมันทั้งวันเลยก็ได้ ระยะนี้น้ำมันถูกต้องรีบใช้ ที่แน่ ๆ ก็คือ เร่งดีมากตอนใช้น้ำมัน ใครที่เล็งW140 และเกรงว่า S280 จะอืด ผมว่าท่านต้องลองเองแล้ว สำหรับผมโอเคเลยครับ ขนาดมีถัง 96 ลิครแบกน้ำแก็สอยู่ 3 จุดด้วยนะ ![]() ***ข้อ 3. ควรวัดเข็มEco ตอนวิ่งควาามเร็วเท่าใด คราวหน้าจะถ่ายมาเปรียบเทียบกันครับ |
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#87 | |
Join Date: Oct 2010
Location: meenburi-nong-chock
Posts: 1,013
Thanks: 765
Thanked 476 Times in 249 Posts
|
![]() อ้างถึง:
|
|
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
#88 | |
Join Date: Jan 2014
Location: Ladproa, BKK
Posts: 5,351
Thanks: 3,229
Thanked 1,488 Times in 1,120 Posts
|
![]() อ้างถึง:
เข็มที่เห็นเนี่ยอาจเป็นเพราะได้หม้อน้ำใหม่ เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อหลังสงกรานต์ปีก่อน เบิกห้างเป็นอลูมิเนียมตรงรุ่นเลย วันนั้นรถติดมาก ผมยังเสียว ๆ ว่าถ้าแตะร้อยต้องหาจอดก่อนหรือไม่ แต่ชอบตรงที่ร้อนเร็ว เนื้อแก็สจะได้ถึงอุณหภูมิเร็ว ผมออโต้จูนตรงเทมป์ 60C ยังปรับชดเชยเรื่องTemp Correctionไม่เป็น หรือISA2จะปรับไม่ได้ก็ไม่รุ? ก็เลยใช้แก็สตอนอุณหภูมิถึงเลยดีกว่า อีกอย่างตอนเช้าเกียร์ได้วอร์มเร็ว ก็เปลี่ยนนุ่มนวลด้วย ตรงนี้สำคัญสำหรับผมครับ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#89 |
Join Date: Oct 2010
Location: meenburi-nong-chock
Posts: 1,013
Thanks: 765
Thanked 476 Times in 249 Posts
|
![]()
นั้นรถติดมาก ผมยังเสียว ๆ ว่าถ้าแตะร้อยต้องหาจอดก่อนหรือไม่
ไม่ต้องจอดหรอกครับ พอร้อยกว่า เดียวพัดลมทำแรงขึ้นก็ลง แต่ถ้ารถติดๆ มันก็จะกลับไปร้อยอีก พัดลมก็ทำอีก เป็น ธรรมชาติ ของระบบ มัน เอ้ หรือเป็นแต่คันของผมคันเดียว ![]() |
![]() |
![]() |
คำขอบคุณจาก : |
![]() |
Thread Tools | Search this Thread |
Display Modes | |
|
|