You are using an out of date browser. It may not display this or other websites correctly.
You should upgrade or use an
alternative browser.
190E เบาดับ ไม่มีวัดรอบ รถติดความร้อนขึ้น
สวัสดีครับ คราวนี้ขอรบกวนหน่อย รถญาติ
190E เครื่อง M102 1.8 เดิม ๆ วิ่งจาก ชุมพร มา กทม. เพื่อแก้ปัญหา แต่เวลาไม่พอ ต้องรีบกลับ เลยแก้ไม่จบ
- เบาดับ แบบจะออกตัว หรือ ชะลอจะหยุด เป็นหนักตอนอากาศร้อน รถติด ๆ ถ้าถนนโล่งออกตัวได้ปกติ แต่ดั้นไม่มีวัดรอบ เป็นนาฬิกา ลองให้ช่างจูน ล้างไอเดิ้ล เปลี่ยนกรองอากาศ หัวเทียน ช่างเช็ค สายหัวเทียน คอยด์ ยังใหม่อยู่ แต่พอร้อนหน่อย ๆ รถติดร้อน ๆ เบาดับ สงสัยจูนรอบเดินเบาไม่สูงพอ
อันนี้ต้องติดวัดรอบเพื่อช่วยในการจูนไอเดิ้ลไม่ให้เบาดับ ขอคำแนะนำว่าจะติดยังไง แบบไหนดี
- ความร้อนขึ้น อากาศร้อน ๆ รถติด หรือ วิ่งยาว ๆ เปิดแอร์ ร้อนจน 100 ต้องจอดข้างทาง พอจะวิ่งแบบปิดแอร์ได้
เช็คฝาหม้อน้ำก็ดัน แต่น้ำยังสีใส (สงสัยดันจนน้ำยาหมด หรือไม่ได้ใส่) ปั้มน้ำยังใหม่ สายพานฟันยังดี ตั้งตึงให้พอดีแล้ว แอร์ก็เย็นปกติ พัดลมหน้ารถยังหมุน แต่เหมือนจะไม่แรงเหมือนใหม่ มีบางทีขี้เกียจหมุน ต้องเขี่ยช่วยถึงจะหมุน เช็คราคาแล้วหน้ามืด
ขอคำแนะนำว่า พัดลมหน้ารถเล่นของเชียงกง หรือ ไต้หวัน ดีไหม หรือ ซ่อมได้ไหม
ส่วน ฝาหม้อน้ำ วาล์วน้ำ กำลังสั่งมาเปลี่ยน แล้วล้างหม้อน้ำ ใส่น้ำยาหล่อเย็น
อื่น ๆ กรองเบนซิน เปลี่ยนแล้ว เรกูเรเตอร์น่าจะปกติ สตาร์ทง่าย ยกเว้นเบาดับจะสตาร์ทยาวนิดนึง ถ้าเร่งเครื่องวิ่งตลอดนี่ปกติดีไม่ดับ แต่ดั้นความร้อนขึ้นตามที่ว่า
ชุมพร หาช่าง อะไหล่ลำบาก แถมเหมือนจะโดนยำ แปลงระบบมาบ้าง
หวัดดีคับพี่ผมก็ 190e เพิ่งเปลี่ยนเครื่อง jz รถพี่ติดแก๊สหรือป่าวครับ อาการนี่เป้นที่แก๊สหรือน้ำมันครับ
1.ตอบยากมากรอบนิ่งไหมครับเวลาเดินเบา (ถ้าติดแก๊สบางทีต้องใช้แวคคั่มโตโยต้าช่วย)
อีกตัวที่น่าสนใจคือไมโครสวิซ์ทตรงขาคันเร่ง เคยอ่านจากพี่ๆ มีเซ็นเซอร์ในเรือนไมล์ด้วย
เสื่อมก็ทำให้เบาดับเหมือนกัน
2.-เช็ควาวล์น้ำว่ายังเปิดดีไรือไม่ถ้าใช้นานแล้วเปลี่ยนเลย
-ล้างหม้อน้ำ (ถ้าเป็นหม้อน้ำทองแดง) หม้อน้ำมีเนียมดูสภาพว่าตันไหม ครีบล้มมากไหม
-ฝาหม้อน้ำสำคัญ ถ้ารักษาแรงดันไม่ได้ (มีผลมากเหมือนกัน) เพราะสปริงมันล้ายกเร็ว
น้ำดัน เครื่องร้อน แล้วก็ตามด้วยเครื่องพังครับ
-เช็คการรั่วซึมตามจุดต่างๆด้วยครับ บางทีเส้นผมบังภูเขา น้ำรั่วนิดหน่อยคิดว่าไม่เป็นไร
แต่ตอนเครื่องร้อนแรงดันมันสูงเปลี่ยนจากซึมๆเป็นพุ่งปรี๊ด
-พัดลมไฟฟ้าอ่อนแรงมีส่วนให้ความร้อนขึ้น เป็นผมเลือกของใหม่ครับชัวร์กว่า ราคาเท่ากัน
รอฟังคำแนะนำจากพี่ๆ อีกทีนะครับ เพราะพี่ๆมักมีคำแนะนำที่ดีๆครับ สู้ๆครับ
ข้อแรก ลองเชคว่าไมโครสวิทช์ที่ขาคันเร่ง(กดเปิด/ปล่อยดับ)ยังใช้งานได้อยู่หรือเปล่า
ข้อสอง
1.หม้อน้ำตัน(ทั้งนอกและใน)
2.ลองดูว่าคลัทช์ไฟฟ้ามันจับหรือเปล่า คลัทช์ไฟฟ้านี้สั่งงานด้วยเทอโมสวิทช์ที่ฝาสูบ อยากรู้ว่าเทอร์โมสวิทช์เสียหรือไม่ (ตัวละ 350 บาท) ลองทดสอบดูก็ได้โดยเอามาต้มดู ถ้าอุณหภูมิได้ตามที่เขาตอกพะไว้ มันจะต่อวงจรครับ
3.วาวล์น้ำเสื่อมหรือเสีย วาวล์น้ำก็เช่นกัน ถอดออกมาต้มดูครับ
ข้อสาม พัดลมหมดสภาพ พัดลมมือสอง ใช้ได้ ดีกว่าไม่หมุน แต่เห็นว่าถอดมาเปลี่ยนถ่านได้ พัดลมไม่หมุนลองตรวจสอบว่าไฟที่ผ่านรีซีสเตอร์มันวัดได้เท่าไหร่ ปกติจะประมาณ 9 โวลท์ครับ หรือไม่ลองถอดปลั้กที่เทอร์โมสวิทช์สีฟ้าบนฝาสูบ พัดลมสะเตป2จะทำงาน ถ้าหมุนแรงปกติ ก็เล็งแถวๆรีซีสเตอร์ครับพี่
ผิดถูกอย่าว่ากัน แค่อยากช่วยครับพี่
เพิ่มเติมหน่อยครับ ลองถอดหม้อกรองอากาศ(หม้อกรองนะครับไม่ใช่ใส้กรอง) บางทีอาจจะเจอพวกท่อแวคคั่มต่างๆหลุด/หลวมก็ได้ ครับ ได้ท่อร่วมไอดี แถวเกียร์ก็น่ามุดดู หรือที่วาวล์ลิโพ เพราะวาวล์ตัวนี้เวลาเครื่องร้อนจะเปิด
อีกที่ที่ไม่มีใครสนใจกัน คือวาวล์กันลมกลับ สำหรับท่อแวคคั่มที่เข้าไปห้องโดยสาร ลองถอดออกมา ใช้ปาก ดูด/หรือเป่า เวลาเป่าก็เอานิ้วอุดอีกรูหนึ่งไว้ก่อน ดูว่ายังกันกลับได้หรือไม่ครับ
Last edited:
ขอบคุณครับพี่ ขออภัยที่ตอบช้า เพราะรถไม่ได้อยู่กะผม
ผมช่วยเอามาเช็ควิ่งเข้าอู่แป้บเดียวเอง และต้องทำหลายอย่าง ทั้งเครื่อง ช่วงล่าง แค่ 2 วัน เก็บไม่หมดครับ แล้วก็วิ่งกลับชุมพรไป
- หม้อน้ำ รอล้าง ถ่ายน้ำใหม่
- คลัชไฟฟ้า อันนี้ คงเช็คยาก
- วาล์วน้ำ จะส่งไปให้เปลี่ยน พร้อมน้ำยา ตอนล้างหม้อน้ำ
พัดลมหน้ารถ ไว้จะเช็คละเอียดอีกที เพราะ วิ่งทางไกล ยังความร้อนขึ้น ต้องปิดแอร์วิ่ง พัดลมก็หมุน แต่
ส่วน วาล์วกันกลับและอื่น ๆ นี่ไม่ได้เช็คเลย ดูไม่เป็นด้วย ตอนไล่ก็ เช็ค คอยด์ สายหัวเทียน เปลี่ยนหัวเทียน กรองอากาศ ล้างไอเดิ้ล จูนหนานิดนึง แต่ยังเบาดับตอนแดดออก
ที่สำคัญมันมีปลั้กตรงหม้อกรองแตกหัก สายที่มาต่อเสียบปลั้กไม่ได้
ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมาแจ้งครับ
มีข้อเท็จจริงที่น่าเป็นห่วง คือ แรงดันสูง และความร้อนขึ้น สองอย่างนี้มันอาจเป็นอาการของประเก็นฝาสูบรั่ว หรือเครื่องหลวม
ต้องลองเปิดฝาหม้อน้ำแล้วติดเครื่องดูครับ ถ้ามีฟองอากาศผุดขึ้นมาในหม้อน้ำก็แสดงว่าประเก็นรั่ว ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ครับ
เครื่องหลวมหรือไม่ต้องดูกำลังรถ ถ้าแรงดีก็ไม่ใช่ ถ้าแรงตก ลองเปิดฝากระโปง ดึงเข็มวัดน้ำมันเครื่องขึ้นสัก ๕ เซนติเมตร นั่งมองผ่านปากท่อเข็มวัดน้ำมันเครื่องไปยังที่โล่ง ถ้าเห็นไอร้อนพุ่งขึ้นมาจากท่อนั้นก็ใช่แล้ว
ขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมว่ามานะครับ
เคยเจอความร้อนขึ้นใน 190E ที่จริงต้องบอกว่าเครื่อง M102 มากกว่า
มันมีเซนเซอร์ที่เหมือนกับจะเป็นสามขา แต่จริง ๆ มีแค่สองขา ใกล้ ๆ ท่อยางหม้อน้ำตัวบนครับที่สั่งพัดลมหน้าเครื่องให้จับหรืออยู่เฉย ๆ
ปัญหามันคือว่า ร้อนน้อย ๆ มันยังให้ต่อพัดบม แต่พอรถตอนร้อนมากขึ้นอีก มันสั่งตัดพัดลม ก็เสียหายสิครับ ที่รู้ก็เพราะว่าจอดรถดูมันเลยว่าอะไรของมัน เครื่องร้อนมากแล้วแต่พัดลมหน้าเครื่องเฉย หม้อน้ำร้อนมาก ๆ จนพลอยให้คอยล์ร้อนแรงดันสูงสวิทช์หางหนูสีแดง ๆ เลยสั่งพัดลมแอร์เป่าแรงไม่หยุดเลย อุณหภูมิก็แตะ 100 ตลอดแต่ไม่ถึง 110
ผมก็เอาตัวรอดโดยหาเศษสายไฟมาต่อตรงที่ขั้วเซนเซอร์ พัดลมหน้าเครื่องก็เลยจับตลอดเวลา ขับกลับบ้านสบายใจ รถเคลื่อนแปบเดียวเข็มความร้อนก็ลงมาปกติ
ข้อนี้ละที่ผมว่าเบนซ์ออกแบบรถได้รอบคอบสุด ๆ ชอบเครื่อง m102 ตรงนี้ละครับ
เครื่อง ฝาสูบ ฯลฯ ยังดีอยู่หมดเลย ถึงว่าเจ้าของคนเก่าใช้ไม่ถึงปีมันก็มาอยู่มันหลุดมาอยู่เตนท์

Last edited: