Mag Wheel : Weight
- Thread starter Pk124
- Start date
mikex
New member
ผมลองไปหาอ่านจากที่พี่มานิทถามไว้
ได้ใจความว่า
เป็นเรื่องกฎการเคลื่อนที่ข้อแรกๆของลุงนิวตั้น
คือเรื่อง วัตถุที่เคลื่อนที่โดยไม่มีแรงกระทำภายนอก และเรื่องความเฉื่อยครับ
อ่านมาท่านว่า สำหรับ ความเฉื่อยของการหมุนรอบนั้น Rotational Inertia
จะต้องใช้พลังในการทำให้วัตถุที่่อยู่่ห่างจากจุดหมุน(แกน)หมุนไปได้หรือหยุด
มากกว่าเสมอ
เมื่อเทียบกับวัตถุที่น้ำหนักเท่ากันแต่อยู่ใกล้จุดหมุน
เมื่อนักเสกต หมุนตัว (spin) รอบตัวเองด้วยความเร็วหนึ่ง ซึ่งแทบจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เพราะ แรงเสียดทาน หรือ แรงบิดที่ปลายรองเท้าเสก็ตกับน้ำแข็งนั่นแทบไม่มีเลย
เปรียบได้ว่า ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนักเสกตอาจจะหมุนไปได้จนข้าววันข้ามคืน ฮิๆ
ดังนั้นด้วยความเร็ว คงที่ๆเกิดขึ้นตอนเริ่มหมุน หากนักเสกต ยื่นแขนขากางออกมา จะทำให้ การหมุนตัวช้าลงเพราะมวลบางส่วนยื่นออกจากแกนหมุน และเมื่อเก็บเแขนขาเข้ามา ความเร็วรอบในการหมุนก็เพิ่มขึ้น และส่งผลให้รอบการหมุนเร็วขึ้นด้วย
เป็นสัดส่วน กำลังสองเลยด้วยซ้ำ
I = mr²
อืมมมมมมม ส่วนเรื่อง ล้อและเบรค ผม เดาเอาว่า
ขยาดของวงล้อ ที่ขยายกว้างขึ้น r กับน้ำหนักของล้อ m เป็นผลสำคัญที่ ทำให้เราต้องใช้แรงมากแค่ไหนในการหมุน และใช้แรงมากแค่ไหนในการเบรค
โดยน่าจะพูดง่ายๆได้ว่า
1. ล้อกว้าง และ หนัก ต้องใช้แรงมากในการจะเปลี่ยนจากหยุดเป็นหมุน(ออกตัว)
2. ล้อกว้าง และ หนัก เมื่อวิ่งไปเร็วๆ จะ ไหลลื่นได้ดีมาก ความเร็วเท่ากันถ้าไม่เบรค รถจะไหลไปได้ไกลกว่า เพราะแรงเฉื่อยที่มากกว่า
3. ล้อกว้าง และ หนัก เมื่อต้องเบรค จำเป็นต้องใช้พลังมากกว่าเพื่อหยุดแรงเฉื่อย จึงเป็นต้องดัดแปลงเบรค
4. ดูจากสมการ ขนาดกว้างของล้อ มีผลมากกว่าน้ำหนักล้อ เป็นอย่างมากด้วย การยกกำลัง 2 ที่ว่านั่นเอง และเมื่อล้อกว้างขึ้น น้ำหนัก ที่เป็นตัวคูณ ก็นับมีส่วนสำคัญมาก เพราะล้อ แมกทั่วไปหนักประมาณ 10-15 กิโลกรัม การใช้ล้อ Forged ที่น้ำหนักเพียง 7.5-8 โล เท่ากับ เราลดตัวคูณไปกว่า 50% ลองจิตนาการได้เลยว่า แรงเฉื่อย ที่เพิ่มขึ้นหรือลด ทั้งสี่ล้อนั้น นับมามีผลเอามากๆ ต่ออัตตราเร่ง และ อัตราเบรค คับผม
สรุปผมก็เลยถึงบางอ้อในทันที ที่ ลุงสี่ เตือนมาตลอดว่า ล้อใหญ่ๆ นะ ม้าต้องเยอะๆ
(แต่ก็ ติดใจเรื่อง น้ำหนักของรถอยู่ครับ เพราะแรงเฉื่อยส่วนใหญ่ที่เราต้องเอาชนะในการเบรค ส่วนมากน่าจะมากจากน้ำหนักรถ ซึ่งมีน้ำหนักเกือบ 2000 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าน้ำหนัำกล้อมากจนไม่ทราบว่าน้ำหนักล้อจะมีผลมากแค่ไหน)
ได้ใจความว่า
เป็นเรื่องกฎการเคลื่อนที่ข้อแรกๆของลุงนิวตั้น
คือเรื่อง วัตถุที่เคลื่อนที่โดยไม่มีแรงกระทำภายนอก และเรื่องความเฉื่อยครับ
อ่านมาท่านว่า สำหรับ ความเฉื่อยของการหมุนรอบนั้น Rotational Inertia
จะต้องใช้พลังในการทำให้วัตถุที่่อยู่่ห่างจากจุดหมุน(แกน)หมุนไปได้หรือหยุด
มากกว่าเสมอ
เมื่อเทียบกับวัตถุที่น้ำหนักเท่ากันแต่อยู่ใกล้จุดหมุน
เมื่อนักเสกต หมุนตัว (spin) รอบตัวเองด้วยความเร็วหนึ่ง ซึ่งแทบจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เพราะ แรงเสียดทาน หรือ แรงบิดที่ปลายรองเท้าเสก็ตกับน้ำแข็งนั่นแทบไม่มีเลย
เปรียบได้ว่า ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนักเสกตอาจจะหมุนไปได้จนข้าววันข้ามคืน ฮิๆ
ดังนั้นด้วยความเร็ว คงที่ๆเกิดขึ้นตอนเริ่มหมุน หากนักเสกต ยื่นแขนขากางออกมา จะทำให้ การหมุนตัวช้าลงเพราะมวลบางส่วนยื่นออกจากแกนหมุน และเมื่อเก็บเแขนขาเข้ามา ความเร็วรอบในการหมุนก็เพิ่มขึ้น และส่งผลให้รอบการหมุนเร็วขึ้นด้วย
เป็นสัดส่วน กำลังสองเลยด้วยซ้ำ
I = mr²
อืมมมมมมม ส่วนเรื่อง ล้อและเบรค ผม เดาเอาว่า
ขยาดของวงล้อ ที่ขยายกว้างขึ้น r กับน้ำหนักของล้อ m เป็นผลสำคัญที่ ทำให้เราต้องใช้แรงมากแค่ไหนในการหมุน และใช้แรงมากแค่ไหนในการเบรค
โดยน่าจะพูดง่ายๆได้ว่า
1. ล้อกว้าง และ หนัก ต้องใช้แรงมากในการจะเปลี่ยนจากหยุดเป็นหมุน(ออกตัว)
2. ล้อกว้าง และ หนัก เมื่อวิ่งไปเร็วๆ จะ ไหลลื่นได้ดีมาก ความเร็วเท่ากันถ้าไม่เบรค รถจะไหลไปได้ไกลกว่า เพราะแรงเฉื่อยที่มากกว่า
3. ล้อกว้าง และ หนัก เมื่อต้องเบรค จำเป็นต้องใช้พลังมากกว่าเพื่อหยุดแรงเฉื่อย จึงเป็นต้องดัดแปลงเบรค
4. ดูจากสมการ ขนาดกว้างของล้อ มีผลมากกว่าน้ำหนักล้อ เป็นอย่างมากด้วย การยกกำลัง 2 ที่ว่านั่นเอง และเมื่อล้อกว้างขึ้น น้ำหนัก ที่เป็นตัวคูณ ก็นับมีส่วนสำคัญมาก เพราะล้อ แมกทั่วไปหนักประมาณ 10-15 กิโลกรัม การใช้ล้อ Forged ที่น้ำหนักเพียง 7.5-8 โล เท่ากับ เราลดตัวคูณไปกว่า 50% ลองจิตนาการได้เลยว่า แรงเฉื่อย ที่เพิ่มขึ้นหรือลด ทั้งสี่ล้อนั้น นับมามีผลเอามากๆ ต่ออัตตราเร่ง และ อัตราเบรค คับผม
สรุปผมก็เลยถึงบางอ้อในทันที ที่ ลุงสี่ เตือนมาตลอดว่า ล้อใหญ่ๆ นะ ม้าต้องเยอะๆ
(แต่ก็ ติดใจเรื่อง น้ำหนักของรถอยู่ครับ เพราะแรงเฉื่อยส่วนใหญ่ที่เราต้องเอาชนะในการเบรค ส่วนมากน่าจะมากจากน้ำหนักรถ ซึ่งมีน้ำหนักเกือบ 2000 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าน้ำหนัำกล้อมากจนไม่ทราบว่าน้ำหนักล้อจะมีผลมากแค่ไหน)
Manit
New member
ขอบคุณครับที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็น ผมแอบไปเปิดกระทู้ใหม่อธิบายไว้ด้วยเหมือนกัน 8)
ตามสูตร Angular Momentum = Moment of Inertia x ความเร็วเชิงมุม
http://www.benzowner.net/bon/viewtopic.php?t=6606
ส่วนเรื่องการเบรคเพื่อหยุดรถนั้นเป็นการเอาชนะแรงต้านอยู่ทั้งสองเรื่องคือ ทั้ง Angular Momentum ในส่วนของสิ่งที่หมุนๆอยู่ และ Linear Momentum ในส่วนที่เป็นตัวรถทั้งหมดที่เคลื่อนที่เป็นแนวตรง ซึ่งใช้พลังงานมากกว่า นน.ล้ออีกครับ
ตามสูตร Angular Momentum = Moment of Inertia x ความเร็วเชิงมุม
http://www.benzowner.net/bon/viewtopic.php?t=6606
ส่วนเรื่องการเบรคเพื่อหยุดรถนั้นเป็นการเอาชนะแรงต้านอยู่ทั้งสองเรื่องคือ ทั้ง Angular Momentum ในส่วนของสิ่งที่หมุนๆอยู่ และ Linear Momentum ในส่วนที่เป็นตัวรถทั้งหมดที่เคลื่อนที่เป็นแนวตรง ซึ่งใช้พลังงานมากกว่า นน.ล้ออีกครับ
Last edited: