สอบถามวิธีแก้ เฟืองท้ายหอน

Wattapol

New member
สืบเนื่องจากเฟืองท้ายเริ่มมีเสียง โดยเสียงจะเริ่มดังชัดเจนที่ความเร็วประมาณ 30 km/h แต่เสียงจะเริ่มหายไปเมื่อความเร็วที่ประมาณ 60 km/h ครับ

E280 อัตราทด 3.06

จะขอสอบถามดังนี้ครับ
ถ้าเราใช้น้ำมันเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น ซี่รี่วัน ที่โฆษณา ว่าเป็นสารเคลือบ ช่วยในการหล่อหลื่น นำมาใส่ในเฟืองท้ายแล้ว เสียงจะเงียบไหมครับ แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาบ้างหรือเปล่า

(ตามโฆษณา บอกว่าสามารถใส่ได้ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และเฟืองท้าย ครับ )

คำถามต่อไป ถ้าเราเอาไป build ใหม่ จะคุ้มไหมครับ

คำถามสุดท้าย ถ้าเราซื้อของมือสองมาใช้งาน มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร จะแน่นอนที่สุดครับ และควรจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ จึงจะเหมาะครับ


ขอบคุณครับ
 
ทำไมถึง มั่นใจว่าเป็นเสียงเฟืองท้ายคับ

ไม่คิดว่าเป็นลูกปืนล้อหรือคับ
 
ทำไมถึง มั่นใจว่าเป็นเสียงเฟืองท้ายคับ

ไม่คิดว่าเป็นลูกปืนล้อหรือคับ

ให้ช่างดูแล้ว ครับพี่ ว่าเป็นเสียงเฟืองท้ายแน่นอน
 
ตอบจากเหตุการณ์ของตัวเองที่เคยเจอนะครับ น้ำมันเฟืองท้ายถูกเบอร์ตามสเป็กหรือเปล่า
ผมเคยโดนกับกะบะส่งของที่บ้าน เอาไปเข้าศูนย์บริการสีเหลืองๆ พี่เล่นใส่เบอร์ 140 มาให้(ไม่ได้เฝ้ารถ-ตอนหลังกลับไปถาม) พอเปลี่ยนเป็น 90 ตามสเป็กก็เลิกหอน
 
เสียงที่ 30 หายไปตอน 60 เหมือนไม่น่าจะใช่เสียงเฟืองท้ายนะครับ
 
ของผม ก็เป็นเหมือนกัน มีเสืยงอื้อๆ ตอน 120-130 km
ยัง วนๆ หาสาเหตุอยู่เหมือนกันคับ
 
เสียงที่ 30 หายไปตอน 60 เหมือนไม่น่าจะใช่เสียงเฟืองท้ายนะครับ

คือรถผม เคยมีปัญหาว่าช่างใส่ยอยเฟืองท้ายไม่สนิทครับ พอยิ่งวิ่ง น็อตที่ไขไว้ ก็คลายตัวออกมาเรื่อยๆ จนตำแหน่งเฟืองท้ายผิดไป แกนเพืองท้ายไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้น้ำมันไหลย้อยออกมาพร้อมกับเศษโลหะเล็กๆ จำนวนมาก แล้วมีเสียงดังมาก (เสียงดังเหมือนเบรคล็อกเลยครับ) หลังจากนั้น จึงรีบเอารถไปเข้าอู่ครับ ถอดล้าง เติมน้ำยาใหม่ แล้วก็มีทำอะไร ต่อมิอะไร อีกนิดหน่อย พอรถออกมาจากอู่ ก็ปรากฏว่ามีเสียงดังที่ 30 ถึง 60 ตามนั้นหละครับ เลยเอาไปให้ช่างดูอีกที ลองเช็คลูกปืนดูแล้ว ปกติครับ ช่างเค้าก็เลยสรุปง่ายๆ ว่า เศษโลหะที่แตกออกมาพร้อมกับน้ำมันตอนแรก น่าจะเป็นส่วนสำคัญของเพืองในการรับภาระกรรมในช่วงความเร็วที่ 30 ถึง 60 นั้นหละครับ

แต่ช่วงความเร็วอื่น เสียงเงียบมากครับ
 
รถผมเองเคยมีเสียงหอนครับตอนแรกคิดว่าเป็นเฟืองท้าย แต่มีผู้รู้บอกผมนะว่าวิธีเช็คเป็นเพืองท้ายคือในขณะที่วิ่ง
และมีเสียง ให้ใส่เกียร์ N หรือเกียร์ว่างครับ ถ้าเป็นเพืองท้ายเสียงก้อจะหายไปเนื่องจากเฟืองท้ายไม่ทำงาน
แต่ของผมเสียงดังตลอดเวลาครับ โชคดีไปเป็นที่ลูกปืนล้อครับ
 
รถผมเองเคยมีเสียงหอนครับตอนแรกคิดว่าเป็นเฟืองท้าย แต่มีผู้รู้บอกผมนะว่าวิธีเช็คเป็นเพืองท้ายคือในขณะที่วิ่ง
และมีเสียง ให้ใส่เกียร์ N หรือเกียร์ว่างครับ ถ้าเป็นเพืองท้ายเสียงก้อจะหายไปเนื่องจากเฟืองท้ายไม่ทำงาน
แต่ของผมเสียงดังตลอดเวลาครับ โชคดีไปเป็นที่ลูกปืนล้อครับ

ทดสอบในลักษณะนี้ จะมีผลเสียกับ gear หรือเปล่าครับ
 
จะเปลี่ยนลูกปืนเฟืองท้าย ต้องปรับตั้งระยะห่างระหว่างเฟืองบายศรี กับเฟืองเดือยหมูให้ถูกต้องด้วย ต้องใช้เครื่องมือพิเศษและความชำนาญสูง ราคาลูกปืน ราว แปดพันกว่า +ราคาปรับตั้ง 4 พัน ( เมื่อหลายปีก่อน ) เบ็ดเสร็จต้องมี หมื่นสอง - หมื่นสาม ( เมื่อหลายปีก่อน ) ทั้งนี้ ต้องเปิดฝาหลังออกมาดูสภาพเฟืองท้ายก่อนด้วยว่า ถ้าเปลี่ยนลูกปืนแล้วจะไหวป่าว ?

แต่ในกรณีของพี่ ในเมื่อช่างลงความเห็นว่า เศษที่ออกมาเป็นเศษของเฟืองท้าย ก็ต้องเปลี่ยนเฟืองท้ายมือสองแล้วคับ เฟืองท้าย 3.06 แบบรับประกัน ต้องมีหมื่นกว่าครับ


ผมเคยมีปัญหาเรื่องเฟืองท้ายมาก ผมเล่น ซื้อมือสองมาใส่ พอมั่นใจว่าเฟืองดีไม่มีดัง ผมก็เอาไปเปลี่ยนลูกปืนใหม่ ปรับตั้งใหม่ เดี๋ยวนี้เฟืองท้ายลูกนั้นเปลี่ยนเจ้าของไปหลายมือ จนไม่รู้ว่าไปอยู่หนใดแล้วคับ

อู่ที่ปรับตั้งเฟืองท้าย คือ อู่ SP ตลิ่งชัน อยู่ ถ. บรม ฯ ขาออก ประมาณ เสาทางลอยฟ้าต้นที่ 106 - 108
 
ตอนนี้อู่ SP ตลิ่งชั่น ย้ายเข้าไปอยู่ที่สาย 1 แล้วครับ จากเดิมอยู่บรมราชชนนี จากอู่เดิมให้เลี้ยวซ้ายเข้าสาย 1 ก่อนถึงสายใต้ใหม่ ไปกลับรถยูเทรินแรก แล้วชิดซ้ายอยู่ในซอย มองจากปากซอยก็เห็นอู่ครับ
 
ทดสอบในลักษณะนี้ จะมีผลเสียกับ gear หรือเปล่าครับ

ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ พังนะครับ
 
แล้วถ้าถ้าเราใช้น้ำมันเพิ่มประสิทธิภาพ ผสมกับน้ำมันเฟืองท้าย เช่น ซี่รี่วัน ที่โฆษณา ว่าเป็นสารเคลือบเนื้อโลหะ ที่ช่วยในการหล่อหลื่น เมื่อเรานำมาใส่ในเฟืองท้ายแล้ว เสียงจะเงียบลงไหมครับ แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาบ้างหรือเปล่า

(ตามโฆษณา บอกว่าสามารถใส่ได้ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และเฟืองท้าย ได้ครับ )
 
ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ พังนะครับ

ถ้าเราทดสอบแบบว่า ... วิ่งอยู่ แล้วใส่ N ปล่อยไหล.... แล้วเหยียบเบรคจอดสนิท เข้าเกียร์ D วิ่งต่อ

เคย หนนึง .. ลองซิ่งดูบนทางด่วน ... ดึงคันเกียร์จาก D ลงมาหนึ่งสเตป พอรอบเครื่องห้าพัน ...ผลักมาที่ D .... :n28: สงสัยช่วงก่อนเล่นฟิตเนสเยอะไป ..ดั๊นผลักเลยมาที่ตัว N ... :chased:
ตกใจ ทำไรไม่ถูก ...เลยผลักมาที่ตัว D ใหม่ ... โอ้โฮ :n06:... เหมือนเกียร์จะหลุดไปกองที่ถนน ...
 
แล้วถ้าถ้าเราใช้น้ำมันเพิ่มประสิทธิภาพ ผสมกับน้ำมันเฟืองท้าย เช่น ซี่รี่วัน ที่โฆษณา ว่าเป็นสารเคลือบเนื้อโลหะ ที่ช่วยในการหล่อหลื่น เมื่อเรานำมาใส่ในเฟืองท้ายแล้ว เสียงจะเงียบลงไหมครับ แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาบ้างหรือเปล่า

(ตามโฆษณา บอกว่าสามารถใส่ได้ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และเฟืองท้าย ได้ครับ )


ของพี่น่ะ ขนาดมีเศษโลหะออกมาแล้ว เรื่องจะพึ่งน้ำมันใดๆคงไม่ไหวแล้วเพ่
 
ถ้าเราทดสอบแบบว่า ... วิ่งอยู่ แล้วใส่ N ปล่อยไหล.... แล้วเหยียบเบรคจอดสนิท เข้าเกียร์ D วิ่งต่อ ...

เคยอ่านหนังสือเจอว่า N น้ำมันเกียร์ไม่หมุนเวียนในระบบครับ นี่แหละที่กลัว
 
ของพี่น่ะ ขนาดมีเศษโลหะออกมาแล้ว เรื่องจะพึ่งน้ำมันใดๆคงไม่ไหวแล้วเพ่

ขอบคุณครับพี่ เดียวต้องรีบหาเนียนๆ มาสแปร์ ไว้ก่อน
 
ตราบใดที่เครื่องยนต์ติดอยู่จะมีการปั้มน้ำมันเกียร์หมุนเวียนอยูในระบบอยู่แล้วครับ ดังนั้นในการลากรถเกียร์ออโต้ที่เครื่องยนต์เสียจึงต้องจำกัดความเร็วไม่ให้เกิน 60 และลากไม่ไกลมากนัก เนื่องเกียร์จะไม่มีการใหลเวียนน้ำมันเกียร์เพื่อหล่อลื่นและระบายความร้อน เกียร์จะร้อนจัด
ในกรณีที่วิ่งมาเร็วๆแล้วปลดเกียร์ว่างมักจะมีการยกคันเร่งด้วย ทำให้เกิดความแตกต่างของรอบเครื่องยนต์และชุดเกียร์มาก เมื่อใส่เกียร์ D กลับเข้าไปอีกครั้งจะเกิด Engine brake อย่างรุนแรง ใบพัดภายในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ซึ่งได้ออกแบบมาให้รับและส่งแรงบิดในทิศทางหนึ่งจะกลายเป็นว่ารับแรงด้านหลังใบพัด ถ้ารุนแรงมากๆอาจชำรุดได้ ถ้าจะใส่เกียร์D กลับเข้าไปอีกครั้งต้องเร่งรอบเครื่องยนต์ให้ใกล้เคียงกับตอนที่ปลดเกียร์ที่ความเร็วนั้นๆด้วยเพื่อให้ความเร็วรอบมันรับกัน ก็จะช่วยให้ลดการกระชากลงได้ครับ :)
 
Back
Top