DIY Code Reader

Manit

New member
เคยโพสลงในเวบนี้นานมาแล้ว แต่ยังมีผู้มีความสนใจจะสร้าง Code Reader ไว้ใช้เองบ้าง เพื่อความสะดวกในการค้นหาก็เลยเอามาลงไว้อีกครั้งครับ :)

ScreenHunter_0520Oct_20302023_31.gif
http://www.peachparts.com/shopforum/showpost.php?p=831799&postcount=13
http://www.peachparts.com/shopforum/showthread.php?t=107630

รู้สึกว่าจารย์ Kaz หรือคุณ ปิ้ก จะทำไว้แล้วด้วย ไม่ทราบว่าเป็นวงจรเดียวกันหรือเปล่าครับ ถ้ามีวงจรดีกว่านี้ขอความกรุณาเพิ่มเติมให้ด้วยครับ :)
 
Last edited:
วงจรเดียวกันครับพี่ มาจากอาจารย์

ตอนนั้นพยายามหาเทียบLEDไปหลายตัวแต่ยังไม่สำเร็จ ก้อเลยต้องใช้ของแท้ต่อไป

เด๋วถ้ามีเครื่อง104อยู่ที่บ้านเมื่อไหร่ คงมีโอกาสหาต่อครับ

เครื่อง103เช็คได้สองสามรายการ ดูแล้วไม่จำเป็นครับ
 
คนทำรู้สึกว่าจะเป็นคุณ Arthur Dalton นะครับ

อย่างที่คุณปิ๊กว่าเคยลองหาledกับอาร์มาโมแล้วใช้ไม่ได้
รู้สึกว่าไดอะแกรมที่พวกเคยลงไว้ถูกลบทิ้งไปกันหมดแล้ว มันคงไม่เวิร์คจริงๆนะครับ

ต้องเล่นของนอกที่มีอาร์มาในตัวอย่างเดียว
 
อยากได้ ซักตัวนึง เอาไว้ ใช้ดูแลรถ 124 E280 2คัน
211 e220cdi อีก1

เอา แบบ แฮนด์เฮลด์ ถูกๆ ซักกะตัว ก็ยังดี

เคยเช็ค แฮนด์เฮลด์ ดีๆ แสน อัพ
สแกนเนอร์ ห้าหมื่น อัพ
 
มีข่าวดีครับ

ผมอ่านในลิงค์ ที่ พี่มานิตย์ ให้ไว้ อันที่ 2

ไปเจอ คอมเมนท์ อันนึง ของเจ้าของวงจร

ว่า LED ที่ ระบุ นั้น ต้องเป็น 12V เท่านั้น


ผมเลยถึงบางอ้อ

LED ทั่วๆ ไปนั้น มันมีค่า 3V เท่านั้น ที่เคยๆทำมา
มันก็ เลยไม่เวิค

ถ้า มาต่อ อนุกรมกัน ซัก 4 ตัว อาจจะเวิค

แต่ ช้าก่อน LED 12V ในบ้านเรา
ปัจจุบัน มีขายแล้ว เป็นพวก หลอดเสียบLED
เอาไว้ตกแต่ง ไฟเลี้ยวของพวกกระบะ
ที่ ร้านอะไหล่ มีขาย คู่ นึง ร้อย -2 ร้อยบาท

พอดี ผมมีอยู่

และ ยังโชคดี ที่ได้รับการแนะนำจากพี่ฉุย
เรื่อง สวิทช์ ต้องเป็นแบบ กด ติด ปล่อย ดับ
ขาดแค่ BANANA ปลั๊ก ก็ วิ่งไปซื้อจากร้าน
อุปกรณ์ อิเลคทรอนิค
ก็ เลย ทำตามวงจร พี่มานิตย์

และ ได้ทดลองใช้
โดยดู จากลิงค์ ที่ ว่า

มีคอมเมนท์ บางคนเขาบอกวิธีใช้ไว้

สำเร็จครับ อ่าน ERROR ได้
และ ลบ เออร์เรอร์ได้

ของผม อ่านได้ 23 ครั้ง
คือ เกี่ยวกับ คอยล์จุดระเบิด สูบ 3-4

คงเป็น ข้อมูลค้าง
เพราะ เพิ่งเปลี่ยนไป
ก็ เลย ลบซะ

เดี๋ยววิ่ง อีกซัก อาทิตย์ มาอ่านใหม่
ถ้า เจอ อีก ก็ คง แก้ปัญหาง่ายขึ้น

ขอบคุณ พี่ มานิตย์ พี่ฉุย ครับ
 
ไดอะแกรมอันนี้มั้ง
ถ้าจำไม่ผิดของคุณตาจิม .... นะครับ
 

Attachments

  • Led.jpg
    Led.jpg
    31.3 KB · Views: 4,976
ถ้าแอลอีดีบ้านเราเป็นร้อยนี่ สั่งเอาเลยดีกว่าครับ

อีกรูปที่เคยทำเอาไว้นานแล้ว
 

Attachments

  • RadioShack Led.jpg
    RadioShack Led.jpg
    22.5 KB · Views: 4,907
  • Led-sw Code Reader Resized.jpg
    Led-sw Code Reader Resized.jpg
    24.1 KB · Views: 5,458
สบาย ถึง สบายที่สุดเรยพี่ :)

แต่ ตอนนี้ ผมกำลังไม่สบายคับพี่ 4

พอมี CODE READER
ก็ อ่านเจอ ERROR ที่ IGNITION OUTPUT OR COIL สูบ 3-4

ก็ แปลกดีนะ ทั้งๆ ที่เวลาขับขี่ ก็ สบายเท้าดี
แต่ มันน่าขำจริงๆ พอรู้ว่า มันมี ERROR
เกิด อาการ คันๆๆๆๆๆ
อย่างที่คุย ให้พี่ ฟัง ทางโทรศัพท์ครับ
ถอดเปลี่ยน คอยล์ ก็ แล้ว สลับ คอยล์ ก็ แล้ว
เปลี่ยนปลั๊กใต้คอยล์ ก็ แล้ว ถอดสายหัวเทียน
มาวัดโอห์ม ก็แล้ว ถอดหัวเทียน มาตรวจก็แล้ว

ทำทุกอย่าง


มีอย่างเดียวไม่ทำ คือ เปลี่ยนเบอร์ หัวเทียน

ก็ ที่ผมใช้อยู่ FR78X มัน ผิดสเปคเขา
คือ ในหัวเทียนมันมี R ซึ่ง พี่ 4 มาบอกให้ฟัง

ว่า M104 ไม่ต้องการ มันมีอยู่แล้ว

พี่4 นะพี่ 4

เห็นใน DIY เปลี่ยนหัวเทียนของผมตั้งแต่ ตอนนั้น
ก็ ไม่ยอมทัก

ผม ก็เลยถามพี่4 ว่า ทำไมไม่ทักครับพี่

แก บอก... ไม่อยากทักกลัว ผม หน้าแตก
หรือ จะเหมือนโดน ฉีกหน้า.....

ผม ก็ เลยบอกพี่เขาไปเลย ว่า
ผมหนะ เป็นลูกศิษย์ ของพี่นะครับ ที่ทำเป็น
ก็ ได้รับคำแนะนำจากพี่ ทั้งนั้น
จ้างให้ ก็ไม่หน้าแตก:)

เอาเป็นว่า เดี๋ยว ลองไปเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ เป็น
แบบ ไม่มี R เล็งๆ อยู่ ว่าจะเอา F8DC หรือ
จะเอาหัวเทียน เย็น ของ NGK BCP6ES

ผลเป็นไง แล้วจะ อัพเดท


เอ้า ใครยังไม่มี CODE READER ทำใช้เองซะเด้อ
 
อีกจุดนึงที่ไม่ควรมองข้าม....

เครื่อง 104 ไม่ค่อยจะถูกโรคกับปลั๊กหัวเทียน แบบ งอ 90 องศา และ มีสเตนเลสหุ้มปลาย ถ้าเขี้ยวหัวเทียนห่างไปเพียงนิดเดียว ไฟจะกระโดดไปที่เขี้ยวหัวเทียนไม่ไหว มันไกลไป มันจะกระโดดออกทางสเตเลสแทน ทางแก้ ก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ปลั๊กเบนซ์ อีกรุ่นนึง ที่เป็น แบคกะไลด์ ทั้งอัน ตรงปลายมียางหุ้มน่ะคับ

ส่วนเครื่อง 111 กลับไม่มีปัญหา แถมยังชอบปลั๊กงอ 90 องศา ซะด้วย ก็แปลกดีคับ
 
ขอย้อนกลับมาเรื่อง หัวเทียน 4 เขี้ยวของบอช ซึ่งมีค่า R. มาด้วย พี่ใช้แล้ว ผมไม่ท้วงนั้น เพราะว่า คุณอยู่ถึงริมฝั่งโขง คนแถวนี้ใช้หัวเทียน ของ NGK อีเดี้ยม ที่ ทำให้เบนซ์ ผมก็เคยท้วงว่า มันไม่ดีใส่แล้วรถไม่วิ่ง ( ผมก็มีใช้ ) ยังไม่มีใครเชื่อผมเร้ย ....แล้วผมจะไปท้วงคุณทำไม ? คนใกล้เค้ายังไม่เชื่อเรย สำหาอะไรกับคนไกลตัวเล่า :n03:
 
น้องสมชาย ใหนๆก็สร้าง Code Reader ใช้เองได้แล้ว เพื่อให้ครบเครื่อง น่าจะอธิบายวิธีใช้ เสียบตรงใหนมั่ง มีระหัสข้อบกพร่อง กระพริบกี่ครั้งหมายถึงอะไร เคลียร์เออเร่อร์อย่างไร เป็นต้น จะได้เป็นวิทยาทาน และฐานข้อมูลสำหรับ DIY ประจำเวบต่อไป ขอบคุณครับ :D
 
ได้เลยพี่มานิตย์ ยินดีครับ

หลังจากประกอบครบชุดได้ ตามรูป อาจารย์ KAZ
จะเห็น ปลั๊ก 3 ตัว

ทางที่ดี ควร ใช้ กระดาษกาว พันติด ระบุ ตำแหน่งเสียบ

เอาไว้กันลืม

ปลั๊กแดง ที่มาจาก + ของ LED เสียบที่ PIN 16

ปลั๊ก ดำ ที่มาจาก สวิทช์ กด เสียบเข้า PIN 1

ปลั๊ก ตัวกลาง จะเป็นสีอะไร ก็ตามแต่ เป็นตัวอ่านสัญญาณ

E280 มักจะ ใช้ PIN 8
บางคันอาจเป็น PIN14

การใช้งาน

ดับเครื่องยนต์ บิด สวิทช์ มาที่ตำแหน่ง ON ค้างไว้

เปิด กล่องเช็ค CODE ที่ หน้าเครื่อง ตำแหน่ง อยู่ หน้า หม้อลมเบรค

เสียบ ปลั๊ก ตาม สี ที่กำหนด


การอ่านโค๊ด

กดสวิทช์ ค้างไว้ 2-4 วินาที แล้วปล่อย ( ตอนกด ไฟจะค้าง ปล่อยจะดับ)

สักครู่ จะมีไฟกระพริบ บอก รหัส มา ให้นับ จำนวนการกระพริบ จดไว้


กดค้าง 2-4 วิต่อ เพื่ออ่าน โค๊ดต่อไป จดไว้


ทำไป เรื่อย จนโค๊ดซ้ำเดิม แปลว่า หมดแล้ว





หลังจาก ที่ได้ ทำการแก้ไขแล้ว
ต้องการลบโค๊ด

ทำได้ โดยการลบ ทีละตัว

โดย หลังจาก อ่านโค๊ดที่ต้องการจะลบแล้ว
ภายใน 10 วินาที กดแช่ 6-8 วิ

ก็ จะลบได้แล้วครับ

เดี๋ยวมาต่อรหัส
 
สำหรับ รหัส ที่อ่านได้จาก PIN 8 จาก ECU

จำนวนกระพริบ
1 ปกติ ไม่มีERROR
2. engine coolant temp sensor หลังปั๊มน้ำ
3. air temp sensor บนท่อไอดี ข้ามเครื่อง
4 air mass sensor ติดกับกรองอากาศ
5 ctp switch ไม่รู้อะไร
6 ไม่ใช้
7 ไม่มี
8 ไอเดิ้ลสปีดคอนโทรล มีปัญหา ตำแหน่งเปิดปิด คลาดเคลื่อน
9 o2 เซนเซอร์ ตัวที่1 ก่อนเข้า แคทสัญญาณ โวลท์ มาสูง วงจร อาจขาด
10 o2 เซนเซอร์ ตัวที่2 หลัง แคท สัญญาณ โวลท์ มาสูง วงจร อาจขาด
11 O2 เซนเซอร์ ตัวที่1 วงจร ฮีทเตอร์ อาจโหลดสูงไป หรือ วงจรขาด
12 O2 เซนเซอร์ ตัวที่2 วงจร ฮีทเตอร์ อาจโหลดสูงไป หรือ วงจรขาด
13 ระบบคุมค่า LAmbDA ทำงาน ผิด โดย จ่ายน้ำมัน หนา หรือ บาง เกิน เพดาน
14 หัวฉีด สูบ1 น่าจะหมายถึง ข้อผิดพลาดทาง ระบบไฟฟ้า
15 หัวฉีด สูบ2
16 หัวฉีด สูบ 3
17 หัวฉีด สูบ 4
18 หัวฉีด สูบ 5
19 หัวฉีด สูบ6
20 ไอเดิลสปีด ปรับอากาศ ชดเชยรอบบกพร่อง มาก หรือน้อยไป
21 ระบบจุดระเบิด หรือที่ คอยล์ สูบ 1 และ 6
22 ระบบจุดระเบิด หรือที่ คอยล์ สูบ 2 และ 5
23 ระบบจุดระเบิด หรือที่ คอยล์ สูบ 3 และ 4


พักก่อน
 
24 เซนเซอร์ CRANK SHAFT หรือ แม่เหล็ก บอกตำแหน่ง ผิดพลาด
25 เซนเซอร์ CAMSHAFT หรือ แม่เหล็ก
26 ไม่ใช้
27 สัญญาณ รอบเครื่อง หลุด หรือ ช๊อต
28 VSS วงจร หลุด
29 ไม่ใช้
30 MODULE รีเลย์ ปั๊มเชื้อเพลิง ไม่ครบวงจร หรือ ช๊อต
31 ไม่ใช้
32 KNOCK SENSOR 1 และ หรือ 2 ( ไม่รู้อยู่ตรงไหน แฮะ)
33 มุม จุดระเบิด ผิดพลาด มากกว่า 6 องศา
34

โอย ยากขึ้น เรื่อยๆ


เอางี้ เป็น ภาษา ประกิต ดีก่า

PIN 8

PIN 8 ECU
1 No fault found
2 Engine Coolant temperature sensor
3 Intake air temperature sensor
4 Hot film mass air flow sensor
5 CTP switch
6 Not used
7 Not used
8 Idle speed control (ISC) system at upper or lower control stop or CC or EA indicates "limp
home" mode.
9 O2S 1 (before TWC) - voltage too high, circuit open or voltage implausible
10 O2S 2 (after TWC)voltage too high, circuit open or voltage implausible
11 O2S 1 heater (before TWC) - Current too high/low or short circuit.
12 O2S 2 heater (after TWC) - Current too high/low or short circuit.
13 O2S (Lambda) control system operating at rich or lean limit
14 Injector, cylinder 1
15 Injector, cylinder 2
16 Injector, cylinder 3
17 Injector, cylinder 4
18 Injector, cylinder 5
19 Injector, cylinder 6
20 Self-adaptation at idle speed or upper/lower partial load at rich or lean limit
21 Ignition output 3 or ignition coil for cylinder 1 and 6
22 Ignition output 1 or ignition coil for cylinder 2 and 5 (Engine 111, cylinder 1 and 4)
23 Ignition output 2 or ignition coil for cylinder 3 and 4 (Engine 111, cylinder 2 and 3)
24 CKP sensor or magnet for position sensor not recognized
25 CMP sensor not recognized or implausible
26 Not used
27 TN-signal (rpm signal ) - open or short to ground
28 VSS - open circuit
29 Not used
30 Fuel pump relay module - open or short circuit
31 Not used
32 Knock sensors 1 and /or 2
33 Maximum retard setting on at least one cylinder has been reached or the ignition angle
deviation between the individual cylinders is greater than 6 degrees crankshaft angle
34 Knock control-output switch in engine control module faulty Momentary fault in
self-adaptation closed throttle speed/partial load
35 Model 124,129 and 140 AIR pump switchover valve and/or electromagnetic AIR pump
clutch. Model 202 AIR pump switchover valve and/or AIR relay module
36 Purge control valve - open/short to ground or B+
37 Upshift delay switchover valve
38 Adjustable camshaft timing solenoid - open/short to ground or B+
39 Exhaust gas recirculation switchover valve - open/short to ground or B+
40 Transmission overload protection switch - open/short to ground or B+ or open or closed or
implausible
41 CAN communication from engine control module faulty
42 CAN communication from ASR, EA/CC/ISC module or diagnostic module (OBD II) faulty
43 Starter signal (circuit 50) not present
44 Not used
45 Fuel safety shut-off of electronic accelerator or cruise control active
46 Resonance intake manifold switchover valve - open/short to ground or B+
48 O2S 2 (after TWC) heating circuit relay module - open/short to ground or B+
49 Voltage supply at engine control module implausible/low volts
50 Engine control module faulty or not coded.



และ นี่ ถ้า เป็น PIN14

PIN 14 CC/ETA
1 No fault found
2 EA/CC/ISC control module (N4/1) or Safety contact switch (M16/1s1) or Stop lamp
switch or Cruise control switch or Actual value potentiometer or Starter lock-out/back-up
lamp switch or engine speed signal or vehicle speed signal or closed throttle position
switch or safety relay in EA/CC/ISC control module
3 Right EA/CC/ISC actuator (left cylinder bank) (M16/1)
4 Cruise control switch (S40)
5 Stop lamp switch (S9/1)
6 Starter lock-out/backup lamp switch
7 CAN data bus signal from EA/CC/ISC, ABS/ASR, HFM-SFI or LH-SFI (right or left)
control module faulty.
8 Left front axle vehicle speed sensor from ABS/ASR control module
9 Left rear axle vehicle speed sensor from ABS/ASR control module or in 124 chassis
Hall-effect speed sensor.
10 Engine speed signal (TN) from base module (LH-SFI) or engine control module (HFMSFI)
11 Closed throttle recognition signal to engine control module (HFM-SFI or Left LH-SFI)
Fuel safety shut-off to engine control module (HFM-SFI or left or right LH-SFI)
12 EA/CC/ISC control module voltage supply
13 Left EA/CC/ISC actuator (right cylinder bank) or actual value potentiometer (M16/4r1 or
M16/4r2) or actuator motor (M16/4m1)or magnetic clutch (M16/4k1).
14 Closed throttle position contact switch
15 CAN data exchange with ABS/ASR control module illogical



แบบนี้ ดีก่า สบายก่าเยอะ :bonk:
 
ระหว่างพัก ขอคุยเรื่อง LED คั่นเวลาหน่อย :D
LED ที่ทำขายกันอยู่จะมีหลายสี แต่ละสีจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น สีแดงจะใช้พลังงานน้อยที่สุด คือใช้แรงเคลื่อนไฟฟ้าอยู่ในช่วง 1.63 - 2.03 V ส่วนสีเขียว จะอยู่ในช่วง 2.18 - 4 V (มากที่สุด) สีเหลือง จะอยู่ในช่วง 2.1 - 2.18 V ส่วนสีขาวจะอยู่ที่ 3.5 V
จะเห็นได้ว่าตัว LED จริงๆแล้วไม่สามารถทนแรงเคลื่อนขนาด 12 V ได้ จึงต้องมีการใส่ค่า R มาลดแรงเคลื่อนไฟฟ้าไว้
ตามวงจรที่ อ. Kaz ให้ไว้จะเห็นว่ามี R ค่า 390 โอมห์ต่ออนุกรมกับ LED อยู่ ซึ่งถ้าเราใช้ LED ในสีที่แตกต่างกันออกไป ค่าความต้านทานที่นำมาต่ออนุกรมย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย (ใน LED ที่ใช้กับไฟรถยนต์ 12 V ก็มี R ต่ออยู่ข้างในเช่นเดียวกัน)

มีวิธีหาค่า R เพื่อใช้กับ LED สีต่างๆดังนี้

ให้ Vf = ค่าแรงเคลื่อนที่ LED ทำงานได้ เป็น Volt
If = ค่ากระแสไฟฟ้า ที่ LED สามารถรับได้ เป็น Amp
Vi = ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าของแบตเตอรี่รถยนต์ = 12 V
R = ค่าความต้านทาน เป็น โอมห์ม

ดังนั้น R = (Vi-Vf)/If
สมมุติให้เป็น LED สีแดง ต้องการแรงเคลื่อน 1.85 V และยอมให้กระแสใหลผ่านได้ 0.025 A

แทนค่าในสูตร จะได้ว่า R = (12-1.85)/0.025 = 406 โอห์ม เป็นต้น

ทีนี้ก็ไม่ต้องไปหา LED 12V แพงๆมาใช้กันอีกแล้ว ใช้ตัวละ 3 บาทก็น่าจะโอเคแย้ว...หึ..หึ :D
 
Last edited:
ขอบคุณครับ 169 หน้า อ่านกันเพลินไปเลยครับ :)
 
พี่เลือกใช้ไม่กี่หน้าหรอกครับ
ยิ่งของอีหลัง ใช้ได้นิดเดียวเองครับ
 
Back
Top